มนุษย์เงินเดือน อยากมีเงินล้าน ทำได้ง่ายๆ แค่มีเป้าหมายชัดเจน รู้วิธีเก็บอย่างเป็นระบบ และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้เงินล้านแรกก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะทุกบาทที่ออมในวันนี้ คือก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางการเงินในวันหน้า มนุษย์เงินเดือนทุกคนมีสิทธิ์คว้าเงินล้านแรกได้ อยากรู้วิธีเก็บเงินล้านแล้ว ไปกันเลย!
การเก็บเงินล้านแรกมักเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างมาก หลายคนที่พยายามเก็บเงิน อาจมีคำถามว่า ทำไม “เก็บเงินล้านแรก” ถึงเป็นเป้าหมายที่ยากเหลือเกิน บางคนเริ่มต้นได้ไม่นานก็รู้สึกท้อ จนล้มเลิกความตั้งใจไป แท้จริงแล้ว ความยากไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงิน “หนึ่งล้านบาท” แต่ความยากอยู่ที่คำว่า “แรก”
คนที่เคยเก็บเงินล้านแรกได้แล้ว จึงมักพูดว่า “ล้านแรกยากเสมอ ล้านถัดไปง่ายแล้ว” เพราะล้านแรกเป็นการทบทวนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเงิน เพื่อให้สามารถเก็บเงินได้และช่วยสร้างวินัยให้กับตัวเอง เมื่อสร้างวินัยได้แล้ว การเก็บออมและการลงทุนในอนาคตจะเป็นเรื่องที่เป็นระบบมากขึ้น
การทำความเข้าใจโครงสร้างรายได้ ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนสามารถตั้งเป้าหมายการเก็บเงินได้ง่ายขึ้น โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ฐานเงินเดือน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงตามสัญญาจ้าง เป็นรายได้ที่สามารถคาดการณ์ได้ และส่วนที่สองคือ รายได้พิเศษ เช่น โอที, โบนัส, ค่าคอมมิสชัน, ค่าเบี้ยเลี้ยง ฯลฯ ขึ้นอยู่กับผลงานและนโยบายของบริษัท รายได้ส่วนนี้อาจต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการได้รับรายได้
สูตร 50-30-20 เป็นวิธีการจัดสรรเงินเดือนที่ได้รับความนิยมระหว่างค่าใช้จ่ายจำเป็น ค่าใช้จ่ายตามต้องการ รวมถึงการออมและการลงทุน วิธีนี้ทำตามได้ง่าย รักษาสมดุลระหว่างการใช้จ่ายในปัจจุบัน และรองรับการวางแผนเพื่ออนาคต ทั้งยังสามารถปรับสัดส่วนให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละคนได้ เช่น สัดส่วนการออมและลงทุนอาจเริ่มจาก 10% ของรายได้ แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อมีวินัยมากขึ้น ที่สำคัญควรจดบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นประจำ เพื่อให้เห็นพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง และแยกได้ว่าอะไรคือสิ่งจำเป็น อะไรคือความต้องการ หรืออะไรที่สามารถลดได้
การตั้งเป้าหมายสำหรับการเก็บเงินล้านแรก ต้องกำหนดให้ชัดเจนเลยว่าเราจะนำเงินล้านแรกนี้ไปทำอะไร เช่น ล้านแรกสำหรับเงินสำรองฉุกเฉิน, ล้านแรกสำหรับค่าเทอมลูก, ล้านแรกสำหรับเงินใช้หลังเกษียณ ฯลฯ หากเราตั้งเป้าหมายเพียงแค่ “ฉันอยากมีเงินล้าน” อาจยังไม่แรงกล้าพอที่จะสร้างแรงกระตุ้นให้ลงมือทำจริงจัง นอกจากนั้น อาจแบ่งเป้าหมายย่อย ๆ เช่น เก็บแสนแรกให้ได้ แล้วทำซ้ำ 10 ครั้ง ก็จะถึงล้านได้เช่นกัน
วิธีการลงทุนมีหลากหลายวิธี เช่น การจับจังหวะการซื้อขาย (Market Timing), ลงทุนก้อนเดียวครั้งเดียว (Lump Sum) แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน อาจเลือกวิธี Dollar-Cost Averaging (DCA) ซึ่งเป็นการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ สอดคล้องกับรายได้ที่เข้ามาเป็นประจำทุกเดือน เช่น หากมีเงินเดือน 30,000 บาท แบ่งเงิน 10% มาลงทุน ดังนั้น จะมีเงินลงทุนเพิ่มเข้าพอร์ตลงทุน 3,000 บาทในทุก ๆ เดือน
เมื่อมีเป้าหมายเก็บเงินล้านแรกที่ชัดเจนแล้ว การฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ ควรเลือกการลงทุนที่เหมาะกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่เรารับได้ เพื่อช่วยให้เงินออมเติบโตเร็วขึ้น ที่สำคัญควรศึกษาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เข้าใจก่อนลงทุน และกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง
การเก็บเงินเพื่อบรรลุเป้าหมายล้านแรก มี 4 เรื่องต้องรู้ นั่นคือ เงินต้น เงินเก็บต่อเดือน อัตราผลตอบแทน และระยะเวลาในการเก็บเงิน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
จำนวนเงินที่มีอยู่แล้วก่อนเริ่มต้นเก็บเงิน ยิ่งมีเงินต้นมากเท่าไหร่ ก็ไปถึงล้านแรกได้เร็วมากเท่านั้น เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการเก็บเงินล้านแรก เช่น เก็บเงินล้านแรกจากโบนัสก้อนแรก นอกจากนั้น เงินต้นก็สร้างผลตอบแทนต่อได้อีก
จำนวนเงินที่เก็บออมได้ต่อเดือน เกิดจากการจัดสรรเงินเดือนอย่างเป็นระบบ แบ่งเงินมาเก็บออมและลงทุน หากต้องการเพิ่มเงินออมต่อเดือนให้มากขึ้น สามารถหารายได้เพิ่มหรือลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น เพื่อให้มีเงินเก็บต่อเดือนเพิ่มขึ้นได้
เปรียบเสมือนการเลือกพาหนะในการเดินทาง ความเร็วและระยะเวลาที่ใช้ต่างกัน การกำหนดอัตราผลตอบแทนที่ต้องการก็เช่นกัน ส่งผลต่อการเลือกสินทรัพย์ลงทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หากลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง โอกาสไปถึงเงินล้านแรกก็เร็ว แต่ตามมาด้วยความเสี่ยงที่สูง ในทางกลับกัน หากลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ไปถึงล้านแรกช้าหน่อย ไม่อาจไม่มีความเสี่ยงเลย
ยิ่งมีเวลามาก ดอกเบี้ยทบต้นก็ยิ่งช่วยทำงาน ทำให้เราเก็บเงินต่อเดือนไม่ต้องหนักเกินไป โดยเฉพาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน อายุยังน้อย ภาระอาจยังไม่เยอะ สามารถรับความเสี่ยงได้ ยังมีเวลาให้ลองผิดลองถูก
ไม่มีคำตอบตายตัวว่าควรเลือกปรับปัจจัยไหน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล แต่ก่อนตัดสินใจ อาจลองใช้เครื่องมือคำนวณทางการเงินอย่าง “โปรแกรมออมเท่าไหร่บรรลุเป้าหมาย” เพื่อช่วยเปรียบเทียบทางเลือก และหาวิธีที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุดก่อนได้
หัวใจของเงินสำรองฉุกเฉินคือ สภาพคล่อง สามารถถอนออกมาใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ ดังนั้น การเก็บเงินก้อนนี้จึงไม่ควรเสี่ยง อาจเก็บเงินไว้ในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย เช่น บัญชีออมทรัพย์, กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund), กองทุนรวมตราสารหนี้
เป้าหมายเกษียณเป็นเป้าหมายระยะยาว มนุษย์เงินเดือนสามารถใช้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) เป็นเครื่องมือในการเก็บเงิน แต่หากบริษัทไม่มี PVD หรือคำนวณเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณแล้วเงินไม่เพียงพอ อาจวางแผนลงทุนเพิ่มในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) นอกจากนั้น หมั่นติดตาม ทบทวน และปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
เนื้อหานี้มีประโยชน์กับคุณแค่ไหน?
การเก็บเงินล้านแรกสำหรับมนุษย์เงินเดือน เป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องปรับพฤติกรรมและสร้างวินัยทางการเงิน แต่หากมีเป้าหมายที่ชัดเจน รู้จักโครงสร้างรายได้ของตัวเอง จัดสรรเงินเดือนอย่างเป็นระบบ ตั้งเป้าหมายชัดเจน ลงทุนให้เหมาะสม และเลือกวางเงินไว้ในที่ที่ช่วยงอกเงยได้ นอกจากนั้น ยังสามารถเร่งให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วยการเพิ่มเงินต้น เก็บออมต่อเดือนมากขึ้น เลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม และใช้เวลาสะสมให้ดอกเบี้ยทบต้นทำงาน เมื่อผ่าน “ล้านแรก” ไปได้ ล้านถัดไปก็จะง่ายขึ้นเรื่อย ๆ
มนุษย์เงินเดือน อยากเริ่มต้นวางแผนการเงิน มาทางนี้
เริ่มวางแผนการเงินอย่างไรให้เหมาะกับเรา อ่านนี่เลย! คู่มือวางแผนการเงิน อ่านง่าย Wealthy Worker: มนุษย์เงินเดือนก็มั่งคั่งได้ จากซีรีส์ The Art of Happy Money การเงินดีต้องมีศิลป์ แชร์เคล็ดลับใช้เงินเป็น ลงทุนได้ คัดสรรมาเพื่อมนุษย์เงินเดือนโดยเฉพาะ นอกจากนั้น ยังมีคู่มือวางแผนการเงินที่ปรับได้ตามช่วงวัย ทั้งผู้ที่เริ่มต้นทำงาน, ผู้ที่เป็น Sandwich Gen และผู้ที่ใกล้เกษียณ
บทความที่เกี่ยวข้อง