กรณี Cash Company

เกณฑ์การพิจารณาเหตุเพิกถอน

บริษัท และ/ หรือบริษัทย่อยจำหน่ายสินทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจตามปกติไปทั้งหมด/ เกือบทั้งหมด เป็นผลให้บริษัทและ/ หรือบริษัทย่อยมีสินทรัพย์ทั้งหมด/ เกือบทั้งหมดในรูปเงินสดหรือหลักทรัพย์ระยะสั้น (Cash Company) เกินกว่า 6 เดือนนับแต่วันที่ตลาดหลักทรัพย์ได้รับรายงานแสดงฐานะการเงินหลังจากที่มีการจำหน่ายสินทรัพย์ทั้งหมด/ เกือบทั้งหมดของบริษัทและ/ หรือบริษัทย่อย ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้ว (รายงานแสดงฐานะการเงินฯ*)
*บริษัทต้องส่งรายงานแสดงฐานะการเงินฯ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีการจำหน่ายสินทรัพย์นั้น โดยระหว่างนั้น ตลาดหลักทรัพย์อาจสั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวจนกว่าบริษัทจะรายงานสารสนเทศตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดครบถ้วนชัดเจน

  ขั้นตอนการดำเนินการก่อนบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน

ให้บริษัทแก้ไขการเป็น Cash Company ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ตลาดหลักทรัพย์ได้รับรายงานแสดงฐานะการเงินฯ ทั้งนี้ภายหลังจากที่บริษัทจดทะเบียนจัดส่งรายงานแสดงฐานะการเงินให้ตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์จะประกาศว่าบริษัทจดทะเบียนเป็น Cash Company และดำเนินมาตรการกับบริษัทจดทะเบียนตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยมาตรการดำเนินการกรณีบริษัทจดทะเบียนมีเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย CC (Non-Compliance)ไว้ที่หลักทรัพย์จดทะเบียน
หมายเหตุ: 

• จะคงการขึ้นเครื่องหมาย CC ไว้จนกว่าบริษัทบริษัทจดทะเบียนจะสามารถดำเนินการแก้ไขการเป็น Cash Company ได้ หรือเมื่อตลาดหลักทรัพย์ประกาศให้หุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
• เมื่อบริษัทมีธุรกิจที่มีคุณสมบัติที่จะเข้าจดทะเบียนแล้ว ให้ยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่ตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์

* CC (Non-Compliance)เป็นเครื่องหมายเพื่อเตือนผู้ลงทุนถึงเหตุการณ์ที่บริษัทมีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสดตามหลักเกณฑ์ (Cash Company) โดยจะต้องซื้อขายด้วยบัญชีแคชบาลานซ์

  การดำเนินการเมื่อเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน

เพื่อให้บริษัทมีแนวทางในการแก้ไขที่ชัดเจนและกระตุ้นให้เร่งฟื้นฟูกิจการ ให้บริษัทเปิดเผยความคืบหน้าของการดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูกิจการหรือเปิดเผยความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการต่อตลาดหลักทรัพย์ทุกไตรมาส หรือในวันเดียวกับวันครบกำหนดส่งงบการเงินในแต่ละไตรมาส รวมทั้งเปิดเผยโดยไม่ชักช้าหากมีความคืบหน้าที่มีนัยสำคัญ ตลาดหลักทรัพย์กำหนดระยะเวลาดำเนินการเป็น 2 ช่วงดังนี้

ช่วงที่ 1 ช่วงดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไป มีระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หลักทรัพย์ถูกประกาศเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) เพื่อให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน และ SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ จนกว่าบริษัทจะดำเนินการให้มีคุณสมบัติกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ

• หากบริษัทสามารถดำเนินการให้มีธุรกิจหลักที่จะประกอบธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องชัดเจน ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่หลักทรัพย์ถูกประกาศเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ให้บริษัทจดทะเบียนยื่นหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อชี้แจงข้อมูลว่าเหตุเพิกถอนได้หมดไปแล้ว ตลาดหลักทรัพย์จะประกาศให้หลักทรัพย์ของบริษัทเข้าสู่ช่วงที่ 2 ช่วงดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย  

กล่าวคือ ต้องดำเนินการให้มีธุรกิจหลักที่จะประกอบธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องชัดเจน โดยตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้ประกอบด้วย เช่น มีรายได้จากการดำเนินงาน มีทรัพย์สินที่ใช้ประกอบธุรกิจหลัก มีใบอนุญาตหรือสัมปทานสำหรับการประกอบธุรกิจหลัก เป็นต้น หรือปัจจัยอื่นใดที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนมีธุรกิจหลักที่จะประกอบธุรกิจดำเนินการต่อไปได้อย่างต่อเนื่องชัดเจน

• หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการให้เหตุเพิกถอนหมดไปได้ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ขึ้นเครื่องหมาย NC ตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณาสั่งเพิกถอน โดยอาจอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ 7 วันทำการก่อนเพิกถอนหลักทรัพย์ โดยยังคงเครื่องหมาย NC และให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance

ช่วงที่ 2 ช่วงดำเนินการให้ให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย มีระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศให้บริษัทย้ายเข้าสู่ช่วงที่ 2

• หากบริษัทสามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติกลับมาซื้อขายได้ภายใน 1 ปีตามกำหนดเวลา ให้บริษัทยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่ตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
• หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ภายใน 1 ปีตามกำหนดเวลา ตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณาสั่งเพิกถอน โดยอาจอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ 7 วันทำการก่อนเพิกถอนหลักทรัพย์ โดยยังคงเครื่องหมาย NC และให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance  

การขอขยายเวลาแก้ไข

บริษัทสามารถยื่นคำขอขยายเวลาสำหรับช่วงที่ 2 ช่วงดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย ได้ 1 ครั้ง เป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยให้ยื่นคำขอล่วงหน้า 7 วันทำการก่อนครบกำหนด พร้อมชี้แจงและแสดงเหตุผลหรือข้อมูลสนับสนุนที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกข้อดังนี้

1. มีส่วนของผู้ถือหุ้น (ภายหลังการปรับปรุงความเห็นของผู้สอบบัญชี) ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทจากการดำเนินงานจากธุรกิจหลัก 1 ปี โดยจะพิจารณาจากงบการเงินประจำปีหรืองบการเงิน 4 ไตรมาส ล่าสุดที่ผ่านการตรวจสอบหรือสอบทาน (แล้วแต่กรณี)
2. มีแนวทางดำเนินการเพื่อกลับมาซื้อขายและมีความคืบหน้าที่ชัดเจน และมีการดำเนินการตามแผน
3. มีคุณสมบัติอื่นๆ ครบถ้วน เช่น มีกรรมการ ผู้บริหารและผู้มีอำนาจควบคุมไม่เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศของสำนักงาน ก.ล.ต.และได้ปฏิบัติตามเกณฑ์เปิดเผยข้อมูลครบถ้วน เช่น ส่งงบการเงินครบถ้วนตามกำหนด เป็นต้น

การพิจารณาคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย

บริษัทสามารถยื่นคำขอเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ โดยบริษัทต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการรับหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน สำหรับ SET หรือ mai (แล้วแต่กรณี) ยกเว้น เรื่องการกระจายการถือหุ้นรายย่อย ต้องมี > 15% ของทุนชำระแล้วและมีผู้ถือหุ้นรายย่อย > 150 ราย

การดำเนินการบริษัทจดทะเบียนเพื่อกลับมาซื้อขาย

ยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันทำการก่อนวันครบกำหนดระยะเวลาดำเนินการในช่วงที่ 2
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์อาจนำส่งคำขอพร้อมข้อมูลต่างๆ ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อร่วมพิจารณาด้วย โดยบริษัทจดทะเบียนต้องนำส่งข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาตามที่ตลาดหลักทรัพย์และ/หรือสำนักงาน ก.ล.ต. มีการร้องขอเพิ่มเติมด้วย