Holding Company คือ บริษัทที่มีการประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก และไม่มีการประกอบธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญเป็นของตนเองโดยมีการลงทุนในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักในประเทศ และ/หรือ บริษัทในต่างประเทศ และไม่มีลักษณะ
เป็นการประกอบธุรกิจบริหารจัดการเงินลงทุน (Investment Company)
Holding Company บริษัทที่มีการประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้น
ในบริษัทอื่นเป็นหลัก และไม่มีการประกอบธุรกิจ
อย่างมีนัยสำคัญเป็นของตนเอง โดยมีการลงทุน
ในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักในประเทศ และ/หรือ 
บริษัทในต่างประเทศ และไม่มีลักษณะเป็นการประกอบธุรกิจ
บริหารจัดการเงินลงทุน (Investment Company)
ทำไมต้องจัดโครงสร้างเป็น Holding
| บริษัทสามารถเติบโตด้วยการขยายการลงทุนไปยังสายธุรกิจทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิม ทั้งในประเทศ และ/หรือ ต่างประเทศ ในรูปแบบของบริษัทย่อยมากขึ้น | 
| การมีบริษัทในกลุ่มที่มีโครงสร้างในลักษณะต่างๆ กัน อาจมีปัญหาในการเลือกบริษัทใดบริษัทหนึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ | 
| การรวมกลุ่มของบริษัทที่มีสายธุรกิจแตกต่างกัน  | 
ลักษณะของ Holding Company ที่จะเข้าจดทะเบียน
ทำไมต้องจัดโครงสร้างเป็น Holding
| บริษัทสามารถเติบโตด้วยการขยายการลงทุนไปยังสายธุรกิจทั้งที่เกี่ยวข้อง และไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิม ทั้งในประเทศ และ/หรือ ต่างประเทศในรูปแบบของบริษัทย่อยมากขึ้น | 
| การมีบริษัทในกลุ่มที่มีโครงสร้างในลักษณะต่างๆ กัน อาจมีปัญหาในการ  | 
| การรวมกลุ่มของบริษัทที่มีสายธุรกิจแตกต่างกันอาจมีข้อจำกัดในการดำเนินการ ผลทางภาษี หรือกฎหมาย | 
ลักษณะของ Holding Company ที่จะเข้าจดทะเบียน
| ไม่มีลักษณะเป็นการประกอบธุรกิจบริหารจัดการเงินลงทุน (Investment company) | 
| มีการกำหนดประเภทธุรกิจหลักที่มุ่งเน้นจะเข้าไปลงทุนเพื่อให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ | 
| ต้องเลือกบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลัก 1 บริษัท ที่ Holding Company มีอำนาจในการควบคุมหรือบริหารจัดการตามสัดส่วนการถือหุ้น | 
| มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ Holding Company | 
| กรณีมีเงื่อนไขในการร่วมลงทุนกับภาครัฐ หรือมีข้อจำกัดตามกฎหมายอื่น Holding Company ต้องถือหุ้น > 40% และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการบริษัทอย่างน้อยตามสัดส่วนการถือหุ้น | 
| Holding Company ต้องเป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์และต้องถือหุ้นในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักตลอดเวลาที่เป็นบริษัทจดทะเบียน โดยอาจเปลี่ยนบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักได้เมื่อพ้นระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่หุ้นสามัญเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ | 
ตารางเปรียบเทียบการเข้าจดทะเบียนของ Holding Company vs Operating Company
| บริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (Holding Company) | บริษัทที่ประกอบธุรกิจทั่วไป (Operating Company) | |
| ลักษณะธุรกิจ | ไม่มีการประกอบธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญเป็นของตนเอง ลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก | การดำเนินธุรกิจหลักเป็นของตนเอง เช่น ผลิตและจำหน่าย / ให้บริการ / ซื้อมาขายไป เป็นต้น | 
| รูปแบบรายได้ | เงินปันผลรับ | รายได้ค่าขายสินค้าและบริการ | 
| ตลาด | SET / mai | SET / mai | 
| เกณฑ์การเข้าจดทะเบียน | เกณฑ์กำไรสุทธิ (Profit Test) เกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (Market Cap. Test) - เฉพาะ SET | เกณฑ์กำไรสุทธิ (Profit Test) เกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (Market Cap. Test) - เฉพาะ SET | 
| ผู้ยื่นคำขอเข้าจดทะเบียน | Holding Company | Operating Company | 
| การพิจารณาคุณสมบัติ (เชิงคุณภาพและเชิงตัวเลข) | Holding Company และ บริษัทที่ประกอบธุรกิจหลัก | Operating Company | 
| คุณสมบัติของบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักที่ลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Infrastructure project) ต้องพิจารณาเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม | ||
| การบริหารงาน | Holding Company | Operating Company | 
| Holding Company มีอำนาจควบคุมในการบริหารจัดการบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักตามสัดส่วนการถือหุ้น | ||
| การห้ามขายหุ้นในเวลาที่กำหนด (Silent period) | ตามเกณฑ์ปกติ | ตามเกณฑ์ปกติ 
 | 
| กรณีมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักที่ลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Infrastructure project) ต้องพิจารณาเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม | ||
| การดำรงสถานะ | ตามเกณฑ์ปกติ | ตามเกณฑ์ปกติ เช่น การดำรงสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) เป็นต้น | 
| Holding Company 
 | ||
| บริษัทที่ประกอบธุรกิจหลัก 
 | 
บริษัทที่จะถือเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลัก
ทั้งนี้ Holding Company ต้องเป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์และต้องถือหุ้นในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักตลอดเวลาที่เป็นบริษัทจดทะเบียน โดยอาจเปลี่ยนบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักได้เมื่อพ้นระยะเวลา 3 ปีนับแต่วันที่หุ้นสามัญเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
| หลักเกณฑ์การนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) | 
| เรื่อง | ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) | ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) | 
| สถานะ | บริษัทมหาชนจำกัด หรือนิติบุคคลที่มีกฎหมายไทยจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ | |
| ทุนชำระแล้วเฉพาะหุ้นสามัญ (หลังเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน) | ≥ 300 ล้านบาท | ≥ 50 ล้านบาท | 
| ฐานะการเงินและสภาพคล่อง | 
 | 
 | 
| ผลการดำเนินงาน | เกณฑ์กำไร (Profit Test) มีผลการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้โดยต้องมีอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่มีการสั่งรับเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 
 | เกณฑ์กำไร (Profit Test) มีผลการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้โดยต้องมีอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่มีการสั่งรับเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 
 | 
| เกณฑ์ Market Cap/1 ข้อกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ Market Cap Test | ||
| กระจายการถือหุ้นรายย่อย/2 (หลังเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน) | 
 | 
 | 
| การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน | 
 | |
| 
 | 
 | |
| กรรมการและผู้บริหาร | แสดงได้ว่ากรรมการและผู้บริหารของผู้ยื่นคำขอเป็นบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการบริหารจัดการบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักและบริหารจัดการบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักมาอย่างต่อเนื่อง ≥ 1 ปีก่อนยื่นคำขอและต่อเนื่องจนถึงวันที่มีการสั่งรับเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ยกเว้นกรณี (ก) ผู้ยื่นคำขอเป็นสถาบันการเงินซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกรรมการและผู้บริหารไว้เป็นอย่างอื่น หรือ (ข) บริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักมีการลงทุนในโครงการที่เป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย | |
| การประกอบธุรกิจ | 
 | |
| การบริหารงาน | 
 | |
| การกำกับดูแลกิจการและการควบคุมภายใน | 
 | |
| ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ | ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน/3 | |
| งบการเงินและผู้สอบบัญชี | 
 | |
| กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ | มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ | |
| นายทะเบียน | แต่งตั้งให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) หรือบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์เห็นชอบเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ | |
| การห้ามขายหุ้น (Silent Period) | เกณฑ์กำไร (Profit Test) ผู้เข้าข่าย Strategic Shareholders จะถูกห้ามนำหุ้นของตนซึ่งมีจำนวนรวมกัน 55% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO ออกขายภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยทยอยขายหุ้นได้ 25% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย เมื่อครบกำหนด 6 เดือน เกณฑ์บริษัทที่ประกอบธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน ผู้เข้าข่าย Strategic Shareholders จะถูกห้ามนำหุ้นของตนซึ่งมีจำนวนรวมกัน 55% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO ออกขายภายใน 3 ปี นับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย หลังจากหุ้นซื้อขายครบ 1 ปี และเมื่อครบกำหนดทุก 6 เดือน ทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย | |
| เกณฑ์ Market Cap/1 ข้อกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ Market Cap Test | ||
| Opportunity Day | เกณฑ์กำไร (Profit Test) บริษัทต้องจัดประชุมเพื่อนำเสนอและชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขาย เพื่อให้บุคคลดังกล่าวสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูล รวมทั้งสามารถซักถามผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนได้ เกณฑ์ Market Cap/1 ข้อกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ Market Cap Test | |
| เรื่อง | ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) | ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) | 
| สถานะ | บริษัทมหาชนจำกัด หรือนิติบุคคลที่มีกฎหมายไทยจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ | |
| ทุนชำระแล้วเฉพาะหุ้นสามัญ (หลังเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน) | ≥ 100 ล้านบาท | ≥ 50 ล้านบาท | 
| ฐานะการเงินและสภาพคล่อง | 
 | 
 | 
| ผลการดำเนินงาน | เกณฑ์กำไร (Profit Test) มีผลการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้โดยต้องมีอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่มีการสั่งรับเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 
 | เกณฑ์กำไร(Profit Test) มีผลการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้โดยต้องมีอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่มีการสั่งรับเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 
 | 
| เกณฑ์ Market Cap/1 | ||
| กระจายการถือหุ้นรายย่อย/2 (หลังเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน) | 
 | 
 | 
| 
 | ||
| การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน | 
 | |
| กรรมการและผู้บริหาร | แสดงได้ว่ากรรมการและผู้บริหารของผู้ยื่นคำขอเป็นบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการบริหารจัดการบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักและบริหารจัดการบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักมาอย่างต่อเนื่อง ≥ 1 ปีก่อนยื่นคำขอและต่อเนื่องจนถึงวันที่มีการสั่งรับเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ยกเว้นกรณี (ก) ผู้ยื่นคำขอเป็นสถาบันการเงินซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกรรมการและผู้บริหารไว้เป็นอย่างอื่น หรือ (ข) บริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักมีการลงทุนในโครงการที่เป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย | |
| การประกอบธุรกิจ | 
 | |
| การบริหารงาน | 
 | |
| การกำกับดูแลกิจการและการควบคุมภายใน | 
 | |
| ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ | ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน/3 | |
| งบการเงินและผู้สอบบัญชี | 
 | |
| กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ | มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ | |
| นายทะเบียน | แต่งตั้งให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) หรือบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์เห็นชอบเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ | |
| การห้ามขายหุ้น (Silent Period) | เกณฑ์กำไร (Profit Test) ผู้เข้าข่าย Strategic Shareholders จะถูกห้ามนำหุ้นของตนซึ่งมีจำนวนรวมกัน 55% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO ออกขายภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยทยอยขายหุ้นได้ 25% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย เมื่อครบกำหนด 6 เดือน เกณฑ์บริษัทที่ประกอบธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน ผู้เข้าข่าย Strategic Shareholders จะถูกห้ามนำหุ้นของตนซึ่งมีจำนวนรวมกัน 55% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO ออกขายภายใน 3 ปี นับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย หลังจากหุ้นซื้อขายครบ 1 ปี และเมื่อครบกำหนดทุก 6 เดือน ทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย | |
| เกณฑ์ Market Cap/1 ข้อกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ Market Cap Test | ||
| Opportunity Day | เกณฑ์กำไร (Profit Test) บริษัทต้องจัดประชุมเพื่อนำเสนอและชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขาย เพื่อให้บุคคลดังกล่าวสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูล รวมทั้งสามารถซักถามผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนได้ เกณฑ์ Market Cap/1 ข้อกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ Market Cap Test | |
| 
 | 
| 
 | 
| 
 | 
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
