ชีวิตวัย 20+ เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและโอกาส มีอิสระในการเลือกทางเดินของตัวเอง ทั้งเรื่องงาน ไลฟ์สไตล์ และความฝัน แต่ก็เป็นช่วงที่ต้องเริ่มคิดถึงอนาคตทางการเงินด้วยเช่นกัน หลายคนอาจรู้สึกว่ายังมีเวลาอีกเยอะ
แต่ความจริงแล้ว เรื่องของเงิน ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีต่ออนาคตของเรามากเท่านั้น ดังนั้น หากต้องการให้อนาคตการเงินดี แบบที่ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง สามารถเริ่มต้นทำ 5 สิ่งนี้ก่อนอายุ 30 ปีเพื่อให้ชีวิตการเงินแข็งแรง และพร้อมรับทุกความท้าทายของชีวิต
หลายคนใช้เงินแบบเดือนชนเดือน หรือเผลอใช้จ่ายตามใจโดยไม่มีแผน เมื่อถึงสิ้นเดือนก็ต้องมานั่งบ่นว่าเงินหมดเร็วมาก ลองเปลี่ยนแนวคิดใหม่ให้เป็น “ตั้งงบก่อนใช้” เช่น ปรับใช้หลัก 50/30/20 (ค่าใช้จ่ายจำเป็น 50% ค่าใช้จ่ายส่วนตัวตามใจ 30% และเงินออมเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ 20%)
ที่สำคัญต้อง “ออมก่อน แล้วใช้จ่ายตามงบ” วิธีง่าย ๆ คือ ตั้งระบบตัดเงินอัตโนมัติไปเก็บในบัญชีออมทรัพย์ ลงทุนในกองทุนรวม ตั้งแต่วันที่เงินเดือนออกหรือรับรายได้ จะช่วยให้เก็บเงินได้โดยไม่ต้องกังวล หรือว่าวิธีการออมเงินแบบสนุก ๆ จะช่วยสร้างนิสัยการออมและลงทุนที่ยั่งยืน
อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตไม่มีใครรู้ อาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ตกงานกะทันหัน, ค่าใช้จ่ายสุขภาพ หรือเหตุฉุกเฉินที่ทำให้ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ หากไม่มีเงินสำรองไว้อาจต้องไปพึ่งการกู้ยืมเงิน เกิดหนี้สินให้กลายเป็นภาระระยะยาว
ดังนั้น ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3 - 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน และควรเก็บไว้ในที่ที่ความเสี่ยงต่ำ สามารถถอนออกมาใช้ได้ง่าย เช่น บัญชีออมทรัพย์หรือกองทุนตลาดเงิน หากเพิ่งเริ่มต้นอาจตั้งเป้าเล็ก ๆ ก่อน เช่น เก็บให้ได้เท่ากับค่าใช้จ่าย 1 เดือน แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามกำลัง โดยเงินก้อนนี้จะช่วยให้รับมือกับเรื่องไม่คาดฝันได้แบบไม่ต้องกังวล
หลายคนมองว่าประกันสุขภาพเป็นค่าใช้จ่ายที่ยังไม่จำเป็น เพราะมีสวัสดิการจากนายจ้างหรือประกันสังคม แต่ความจริงแล้ว “ยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดี” เพราะเบี้ยประกันจะถูกกว่าเมื่อยังอายุน้อยและสุขภาพยังแข็งแรง อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วค่อยมองหาประกัน เพราะอาจสมัครไม่ได้หรือเสียค่าเบี้ยที่แพงกว่าหลายเท่า
ประกันสุขภาพช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด และช่วยให้ไม่ต้องใช้เงินเก็บหรือเป็นหนี้หากต้องเข้ารักษาพยาบาล ดังนั้น รีบมองหาประกันสุขภาพที่เหมาะกับตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป
เวลาที่ได้เงินพิเศษ เช่น โบนัส รายได้เสริม หรือเงินจากโปรเจกต์พิเศษ หลายคนมักเผลอใช้จ่ายไปกับของที่อยากได้ทันที แต่แทนที่จะใช้หมด เรามีอีกทางเลือกคือการจัดสรรเงินเป็นหลายส่วน
คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ ควรนำเงินไปปิดหนี้ก่อนหรือนำไปลงทุน? คำตอบอยู่ที่ “อัตราดอกเบี้ย” หากเป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น บัตรเครดิตที่อาจมีดอกเบี้ย 15-20% ต่อปี ควรเร่งปิดหนี้ก่อนเพราะจะช่วยประหยัดค่าดอกเบี้ยได้มาก แต่หากเป็นหนี้ดอกเบี้ยต่ำ เช่น สินเชื่อบ้านที่ดอกเบี้ย 3-4% และมีการลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาจพิจารณาแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุน
วิธีการจัดสรรที่สมดุล คือ ตั้งเป้าหมายการใช้เงินพิเศษ เช่น เก็บ 50% เพื่อปลดภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงหรือลงทุนในกองทุนรวมหรือช่องทางอื่นที่ให้ผลตอบแทนดี ใช้ 30% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น และอีก 20% ใช้เพื่อความสุขส่วนตัว วิธีนี้ช่วยให้ได้ใช้เงินอย่างมีความสุข ขณะเดียวกันก็ไม่ละเลยการวางแผนเพื่ออนาคตทางการเงินที่ดี
โลกทุกวันนี้เปลี่ยนเร็ว งานประจำอาจไม่ใช่แหล่งรายได้ที่มั่นคงเสมอไป การมีรายได้หลายทางเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน และเพิ่มความมั่นคงให้ฐานะการเงินได้ในระยะยาว ลองสำรวจว่าตัวเองมีความสามารถอะไรที่สามารถต่อยอดเป็นรายได้เสริมได้ เช่น ทำฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ สร้างคอนเทนต์ ลงทุนในการพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้ หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสม แม้รายได้เสริมช่วงแรกอาจไม่มาก แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ อาจกลายเป็นแหล่งรายได้หลักในอนาคตได้
ทุกก้าวที่เริ่มต้นวันนี้คือ การเปิดโอกาสให้ตัวเองในวันข้างหน้า ไม่จำเป็นต้องรอให้รายได้สูงหรือมีทุกอย่างพร้อมก่อน แค่เริ่มต้นด้วยก้าวเล็ก ๆ ก็เปลี่ยนแปลงอนาคตได้ ยิ่งเริ่มวางแผนจัดการเงินเร็ว ยิ่งมีโอกาสให้เงินเติบโตและใช้ชีวิตตามที่ฝัน อย่ารอให้ถึงวันที่ต้องการเงินแล้วเพิ่งเริ่มคิดถึงมัน ลงมือทำวันนี้ เพื่อให้ชีวิตการเงินเป็นไปอย่างเป้าหมาย
เรียนรู้เทคนิคและวิธีการวางแผนจัดการเงินอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ และสามารถต่อยอดความมั่งคั่งไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงินได้ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “วัย 20+ เริ่มต้นดี… ชีวิตไม่มีติดลบ” ได้ฟรี!
บทความที่เกี่ยวข้อง