สรุปประเด็น คำถาม-คำตอบ จากงาน “โฆษกพบสื่อ” วันที่ 22 สิงหาคม 2567

โดย SET
template
Highlight

เนื้อหาการพูดคุยถึงมาตรการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นที่จะเริ่มมีผลใช้บังคับ 2 ก.ย. 2567 จำนวน 3 มาตรการ ได้แก่ การกำหนดกรอบราคาซื้อขายหลักทรัพย์ (“Dynamic Price Band”) การซื้อขายด้วยวิธีจับคู่ซื้อขายในคราวเดียว (“Auction”) และการกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำที่คำสั่งซื้อขายต้องคงอยู่ในระบบซื้อขาย (“Minimum Resting Time”)

วัตถุประสงค์ของมาตรการ

  • มาตรการ Dynamic Price Band

   เพื่อควบคุมและลดความผันผวนของราคาซื้อขายหลักทรัพย์ในระหว่างวัน

  • มาตรการ Auction

เพื่อยกระดับการกำกับดูแลและลดความร้อนแรงของหลักทรัพย์ที่อยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขาย

  • มาตรการ Minimum Resting Time

เพื่อป้องกันการใส่-ถอนคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีความถี่จนอาจทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าใจผิดว่ามีความต้องการซื้อขายหลักทรัพย์ในปริมาณมาก (เพิ่มกลไกควบคุมพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม)

 

คำถาม-คำตอบ

1. Dynamic Price Band จะใช้กับหลักทรัพย์ทุกประเภทหรือไม่
  • Phase 1 (เริ่มใช้ 2 ก.ย. 2567)

จะใช้กับ หุ้นสามัญ, หน่วยทรัสต์ (เช่น REITs) และหน่วยลงทุนของกองทุนรวม (เช่น Property Funds และ Infrastructure Funds) ที่มีราคาตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป

จะไม่ใช้กับ หลักทรัพย์ที่มีหลักทรัพย์ข้างต้นเป็น Underlying (เช่น DW), หลักทรัพย์ที่ซื้อขายแบบ Odd-lot และหลักทรัพย์ Foreign

  • Phase 2

จะใช้กับ หลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้มาตการ Dynamic Price Band ใน Phase 1 และหลักทรัพย์ ที่มีหลักทรัพย์ข้างต้นเป็น Underlying (เช่น DW), หลักทรัพย์ที่ซื้อขายแบบ Odd-lot และหลักทรัพย์ Foreign

หมายเหตุ: มาตรการ Dynamic Price Band (ทั้งใน Phase 1 และ 2) จะไม่ใช้กับหลักทรัพย์ที่มีเหตุการณ์ที่อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงราคาได้มากกว่าปกติ (เช่น หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายในวันแรก (First Trading Day หรือที่เรียกว่า
“หุ้น IPO”), หุ้นที่มีข่าว Tender Offer และกรณีอื่น ๆ เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าเหตุที่ทำให้ราคาของหลักทรัพย์สูงหรือต่ำกว่า Dynamic Price Band ไม่ขัดต่อสภาพปกติของตลาด)

2. เมื่อหลักทรัพย์หยุดซื้อขายตามมาตรการ Dynamic Price Band จะส่งผลต่อ Single Stock Futures (“SSF”) ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ดังกล่าวอย่างไร
  • Phase 1 (เริ่มใช้ 2 ก.ย. 2567)

ผู้ลงทุนยังสามารถทำการซื้อขาย SSF ใน TFEX ได้ตามปกติ

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นจากการมี Position ใน SSF ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ซึ่งหยุดการซื้อขายชั่วคราวจากมาตรการ Dynamic Price Band เป็นระยะเวลา 2 นาที

  • Phase 2

SSF ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ซึ่งหยุดการซื้อขายชั่วคราวจากมาตรการ Dynamic Price Band จะหยุดการซื้อขายชั่วคราวเช่นเดียวกับหลักทรัพย์ที่อ้างอิงนั้น

3. ผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายที่ราคานอก Dynamic Price Band ได้หรือไม่
  • ผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ตามปกติ โดยหากเป็นการส่งคำสั่งมารอ (หรือ Waiting Order) แม้จะเป็นราคานอก Dynamic Price Band ก็จะไม่มีผลกระทบจากมาตรการ Dynamic Price Band
  • แต่หากมีการส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์และคำสั่งดังกล่าวจะทำให้เกิดการจับคู่นอก Dynamic Price Band
    (หรือที่เรียกว่า Aggressive Order) ระบบซื้อขายจะทำการจับคู่ซื้อขายให้เฉพาะในส่วนที่จับคู่แล้วยังอยู่ใน Dynamic Price Band จากนั้นระบบซื้อขายจะหยุดจับคู่หลักทรัพย์นั้นและเข้าสู่ Pre-open 2 นาที พร้อมทั้งยกเลิกคำสั่งในส่วนที่จะทำให้เกิดการจับคู่นอก Dynamic Price Band
4. Dynamic Price Band จะลดโอกาสที่หุ้นจะ Ceiling หรือ Floor หรือไม่
  • มาตรการ Dynamic Price Band จะช่วยลดโอกาสที่ราคาหลักทรัพย์จะพุ่งสูงขึ้นหรือลดต่ำลงอย่างรวดเร็วเกินไปในช่วงการซื้อขายระหว่างวัน เนื่องจากมาตรการ Dynamic Price Band จะทำให้เกิดการหยุดการจับคู่ซื้อขายเป็นระยะ ๆแต่ไม่ได้ปิดกั้นการที่หลักทรัพย์นั้นจะ Ceiling หรือ Floor
5. Minimum Resting Time ใช้กับหุ้น IPO ด้วยหรือไม่
  • ใช้กับการซื้อขายหลักทรัพย์โดยทั่วไป ซึ่งรวมถึงการซื้อขายหุ้น IPO ด้วย
  • ยกเว้นไม่ใช้กับการส่งคำสั่งของ Market Maker ที่ขึ้นทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ TFEX เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง
6. การกำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย (Minimum Resting Time) ที่ 250 มิลลิวินาที มีที่มาอย่างไร
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งข้อมูลทางทฤษฎีและข้อมูลทางสถิติแล้ว เห็นว่าระยะเวลา 250 มิลลิวินาทีเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมที่จะใช้จะควบคุมพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสมได้ตามวัตถุประสงค์ของมาตรการนี้
7. การประเมินประสิทธิผลของมาตรการ
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะติดตามและประเมินประสิทธิผลของมาตรการที่ใช้งานแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาแนวทางการทบทวนมาตรการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
  • ในส่วนของมาตรการ Uptick ที่เริ่มใช้มาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน พบว่าปริมาณการทำ Short Sell ลดลงอย่าง
    มีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามที่ได้คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้
8. ความผันผวนของ SET Index เกิดจากอะไร เพราะแม้เริ่มใช้ Uptick แล้ว ก็ยังมีความผันผวนสูงอยู่
  • ความผันผวนของ Index สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายของตลาดหลายเหตุการณ์ เช่น เหตุการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งในและต่างประเทศ, ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา จีน และกลุ่มสหภาพยุโรป รวมถึงเหตุการณ์ Black Monday ที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นต่างประเทศหลาย ๆ แห่ง เช่น NYSE และ JPX เป็นต้น
Dynamic Price Band
Auction

“SET…Make it Work’ for Every Future”

แท็กที่เกี่ยวข้อง: SET SOURCE Dynamic Price Band Auction Minimum Resting Time


บทความที่เกี่ยวข้อง