เรื่อง |
รายละเอียด |
นิยาม
|
- สินทรัพย์ หมายถึงสิ่งที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตน ซึ่งบุคคลหรือกิจการเป็นเจ้าของและมีมูลค่าสามารถจำหน่ายโอนได้
- สิ่งที่มีตัวตน เช่น ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร เงินลงทุน ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เป็นต้น
- สิ่งที่ไม่มีตัวตน เช่น สิทธิการเช่าที่ดินหรืออาคาร สิทธิในสัมปทาน ใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ การโอนหรือสละสิทธิประโยชน์ รวมตลอดถึงการสละสิทธิเรียกร้องที่มีต่อผู้ที่ก่อความเสียหายแก่บริษัท ไม่ว่าสิทธิประโยชน์นั้นจะเกี่ยวเนื่องกับทรัพย์สินของบริษัทหรือบริษัทย่อย เป็นต้น
- ยกเว้นสินทรัพย์ ประเภทต่อไปนี้
1) ทรัพย์สินหมุนเวียนที่บริษัทใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น วัตถุดิบ ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ เงินสด เงินฝาก เป็นต้น
2) การลงทุนเพื่อสภาพคล่อง เช่น เงินลงทุนในตราสารทุน และตราสารหนี้ เป็นต้น
- การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ หมายถึง
- การซื้อหรือขายสินทรัพย์ หรือ
- การตกลงใจ/การเข้าทำสัญญาเพื่อให้ได้สินทรัพย์มาหรือขายสินทรัพย์ออกไปหรือ
- การได้มาหรือสละสิทธิในการได้สินทรัพย์มาหรือขายสินทรัพย์ออกไป หรือ
- การรับโอนหรือโอนออกไปซึ่งสิทธิในการครอบครองสินทรัพย์ในระยะยาว หรือ
- การลงทุนหรือยกเลิกการลงทุน
|
การพิจารณารายการว่าเข้าข่ายเป็นการได้ มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ |
- พิจารณารายการว่าเข้าลักษณะตามนิยามของ ”สินทรัพย์” และ ”การได้มาหรือจำหน่ายไปซี่งสินทรัพย์” ตามข้างต้น
- คำนวณขนาดรายการตามเกณฑ์ที่กำหนด ณ วันที่คณะกรรมการมีมติในเรื่องดังกล่าว
- ดำเนินการตามระดับความสำคัญของขนาดรายการ เช่น
- ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ หรือ เปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์
- ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทหรือได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น
- หากคู่สัญญาเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ให้ดำเนินการตามเกณฑ์รายการที่เกี่ยวโยงกันด้วย
|
การคำนวณขนาดรายการ |
- คำนวณขนาดรายการเพื่อประเมินผลกระทบของการทำรายการที่มีต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทในด้านต่าง ๆ
- เกณฑ์คำนวณขนาดรายการมี 4 เกณฑ์ ดังนี้

|
วิธีการคำนวณขนาดรายการแต่ละเกณฑ์ |
1. เกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ
- สูตรการคำนวณแสดงดังนี้
(NTA* ของเงินลงทุนในบริษัท x สัดส่วนที่ได้มาหรือจำหน่ายไป) x 100
NTA ของบริษัทจดทะเบียน**
* มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ(NTA) หมายถึง สินทรัพย์รวม - สินทรัพย์ไม่มีตัวตน –หนี้สินรวม – ส่วนผู้ถือหุ้นที่ไม่มีอำนาจควบคุม (ถ้ามี)
(สินทรัพย์ไม่มีตัวตน เช่น ค่าความนิยม ค่าใช้จ่ายรอตัดบัญชี เป็นต้น โดยยกเว้นไม่ต้องหักสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ก่อให้เกิดรายได้หลัก เช่น สัมปทาน ประทานบัตร เป็นต้น)
** กรณีบริษัทจัดทำงบการเงินรวม ให้ใช้ NTA ตามงบการเงินรวม (ใช้ข้อมูลตามงบการเงินงวดล่าสุด) |
|
2. เกณฑ์กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน
- สูตรการคำนวณแสดงดังนี้
(กำไรสุทธิจากการดำเนินงานของเงินลงทุนในบริษัท x สัดส่วนที่ซื้อหรือขาย) x 100
กำไรสุทธิจากการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน*
* กรณีบริษัทจัดทำงบการเงินรวม ให้ใช้ กำไรสุทธิจากการดำเนินงานของบริษัทตามงบการเงินรวม (ใช้ข้อมูลตามงบการเงินงวดล่าสุด)
|
|
3. เกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน
- สูตรการคำนวณแสดงดังนี้
มูลค่ารายการที่จ่ายหรือได้รับ* x 100
สินทรัพย์รวมของบริษัทจดทะเบียน**
* 1) กรณีจำหน่ายสินทรัพย์ ให้เปรียบเทียบมูลค่ารวมสิ่งตอบแทนกับมูลค่าตามบัญชี (Book value)โดยเลือกค่าสูงกว่าในการคำนวณ
2) กรณีสิ่งตอบแทนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เปรียบเทียบราคาตลาดของหลักทรัพย์หรือ NTA โดยเลือกค่าสูงกว่าในการคำนวณ
3) กรณีจำหน่ายเงินลงทุนจนทำให้สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม ให้คำนวณมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนโดยรวมเงินให้กู้ยืม ภาระค้ำประกันและภาระผูกพันอื่น ๆ ด้วย
** กรณีบริษัทจัดทำงบการเงินรวม ให้ใช้ สินทรัพย์รวมของบริษัทตามงบการเงินรวม (ใช้ข้อมูลตามงบการเงินงวดล่าสุด)
|
|
4. เกณฑ์มูลค่าหุ้นทุนที่ออกเพื่อชำระค่าสินทรัพย์
- สูตรการคำนวณแสดงดังนี้
จำนวนหุ้นทุนที่บริษัทออกเพื่อชำระค่าสินทรัพย์ x 100
จำนวนหุ้นที่ชำระแล้วของบริษัท *
* ไม่รวมหุ้นทุนที่ออกเพื่อชำระค่าสินทรัพย์
|
การดำเนิน การตามขนาดรายการที่คำนวณได้
|
- เมื่อคำนวณทุกเกณฑ์ที่คำนวณได้แล้วให้เลือกค่าที่สูงสุดเพื่อพิจารณาดำเนินการ
- สรุปการดำเนินการตามขนาดรายการที่คำนวณได้ ดังนี้

* ส่งหนังสือเวียนถึงผู้ถือหุ้นภายใน 21 วันนับจากวันที่แจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยแจ้งสารสนเทศขั้นต่ำตามที่เกณฑ์กำหนดไว้
** ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยต้องได้รับอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 ของผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและมีสิทธิออกเสียง โดยไม่นับรวมผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้ในการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นจะต้องแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ให้ความเห็นต่อการทำรายการซื้อหรือขาย สินทรัพย์ โดย IFA จะต้องแสดงความเห็นในเรื่องต่างๆ เช่น ความสมเหตุสมผลและประโยชน์ของรายการต่อบริษัท ความเป็นธรรมของราคาและเงื่อนไขรายการ เป็นต้น |
การนับรวมขนาดรายการ |
การนับรวมรายการอาจนับรวมรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์หลายรายการเป็นรายการเดียวกันเพื่อเปรียบเทียบมูลค่าของรายการ หากปรากฏว่ารายการดังกล่าวทำขึ้นโดยมีเจตนาแยกเป็นหลายรายการเพื่อเลี่ยงการปฏิบัติตามเกณฑ์ โดยในการนับรวมรายการดังกล่าว ให้รวมถึงรายการต่อไปนี้
- รายการที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการตกลงเข้าทำรายการ ทั้งนี้ ยกเว้นเป็นรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว
- รายการที่เกี่ยวข้องกันกับการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ หรือการรวมกิจการ หรือเป็นผลที่ตามมาของการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการหรือการรวมกิจการ
|
การเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลัก-ทรัพย์โดยอ้อม (Back-door Listing) |
- Backdoor Listing คือการที่บริษัทหรือบริษัทย่อยได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทที่มิใช่บริษัทจดทะเบียนและมีลักษณะดังนี้
- ขนาดรายการ > 100% หรือ
- โอนอำนาจควบคุมไปยังบริษัทที่ไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียนหรือไปยังเจ้าของสินทรัพย์ที่ได้มา (นับรวมการโอนอำนาจควบคุมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 12 เดือน ยกเว้นกรณีที่มีเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามเกณฑ์ Backdoor Listing อาจนับรวมรายการมากกว่า 12 เดือน) หรือ
- ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทจดทะเบียนถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้วของบริษัทที่เกิดจากการรวมเข้าด้วยกัน หรือมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจควบคุมไปยังผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน
- ตลาดหลักทรัพย์อาจนับรวมขนาดรายการที่เกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนเป็นรายการเดียวกัน
- ในกรณีที่มีการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์เป็นรายการ Backdoor แต่เนื้อหาสาระของรายการได้มานั้นมีลักษณะเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการปฎัติตามเกณฑ์นี้ ตลาดหลักทรัพย์อาจพิจารณาว่าเป็นรายการ Backdoor ได้
- การดำเนินการเมื่อเข้าเกณฑ์ Backdoor Listing
- แจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์
- ยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่ตามเกณฑ์การรับหลักทรัพย์
- ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยต้องได้รับอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 ของผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและมีสิทธิออกเสียง โดยไม่นับรวมผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ให้ความเห็นต่อการทำรายการ
ทั้งนี้ หากบริษัทขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนทราบผลการพิจารณาคำขอให้รับหลักทรัพย์จากตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจะต้องระบุในหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นให้ชัดเจนว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งต้องนำส่งหนังสือดังกล่าวให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบก่อนส่งให้ผู้ถือหุ้น
- ตลาดหลักทรัพย์อาจพิจารณาว่าเป็นกรณี Backdoor Listing ที่ไม่ต้องยื่นคำขอให้รับหลักทรัพย์ใหม่ หากเข้าหลักเกณฑ์ทุกข้อดังนี้
- ธุรกิจที่ได้มามีลักษณะคล้ายคลึงกันหรือเสริมกันกับธุรกิจของบริษัท และ
- บริษัทไม่มีนโยบายจะเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในธุรกิจหลักของบริษัท และ
- กลุ่มบริษัทอันเป็นผลจากการได้มาซึ่งสินทรัพย์มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และ
- ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในคณะกรรมการของบริษัทและในอำนาจการควบคุมบริษัทหรือผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมของบริษัท
|
เมื่อบริษัทจดทะเบียนมีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสด(Cash Company) |
- Cash Company คือกรณีที่บริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทย่อยจำหน่ายสินทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจตามปกติออกไปทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดจนทำให้มีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสดหรือหลักทรัพย์ระยะสั้น
- การดำเนินการเมื่อเข้าเกณฑ์ Cash Company
- แจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์
- ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยต้องได้รับอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 ของผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและมีสิทธิออกเสียง โดยไม่นับรวมผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ให้ความเห็นต่อการทำรายการ
- จัดส่งรายงานแสดงฐานะการเงินที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้วต่อตลาดหลักทรัพย์ภายใน 30 วันนับจากวันที่มีการจำหน่ายสินทรัพย์ โดยระหว่างนั้น ตลาดหลักทรัพย์อาจสั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวจนกว่าบริษัทจะรายงานสารสนเทศตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดครบถ้วนชัดเจน
- ให้บริษัทแก้ไขการเป็น Cash Company ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ตลาดหลักทรัพย์ได้รับรายงานแสดงฐานะการเงินฯ โดยระหว่างนี้ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) และเครื่องหมาย C (Caution)* จนครบ 6 เดือนหรือจนกว่าบริษัทจะแก้ไขการเป็น Cash Company ได้ หากบริษัทไม่สามารถแก้ไขได้ภายในเวลาที่กำหนด ตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินการตามเกณฑ์เข้าเหตุอาจถูกเพิกถอนและการพ้นเหตุเพิกถอน กรณีบริษัทมีสินทรัพย์ทั้งหมด/เกือบทั้งหมดในรูปของเงินสดหรือหลักทรัพย์ระยะสั้น (Cash Company)
- เมื่อบริษัทมีธุรกิจที่มีคุณสมบัติที่จะเข้าจดทะเบียนแล้ว ให้บริษัทยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่ตามเกณฑ์การรับหลักทรัพย์
*C (Caution) เป็นเครื่องหมายเพื่อเตือนผู้ลงทุนถึงเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินงานโดยจะต้องซื้อขายด้วยบัญชีแคชบาลานซ์
|
การเปิดเผยข้อมูล |
- บริษัทจะต้องแจ้งมติคณะกรรมการเกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ทันทีที่บริษัทตกลงเข้าทำรายการ (โดยปกติคือวันที่คณะกรรมการมีมติอนุมัติ) คือ ภายในวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติหรืออย่างช้าภายในเวลา 9.00 น. ของวันทำการถัดไปผ่านระบบ SETLink
- ข้อมูลสำคัญในมติคณะกรรมการดังกล่าวมีดังนี้
- วัน เดือน ปี ที่เกิดรายการ
- คู่สัญญาที่ทำรายการ พร้อมระบุความสัมพันธ์กับบริษัท
- ประเภทและลักษณะรายการ
- รายละเอียดของสินทรัพย์
- มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน วิธีการชำระราคาและเงื่อนไขสำคัญอื่น ๆ ตามที่ตกลงกัน
- มูลค่าของสินทรัพย์ที่ได้มาหรือจำหน่ายไป
- เกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทน
- ให้แสดงกำไรสุทธิโดยไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นส่วนของสินทรัพย์ที่เข้าซื้อหรือจำหน่ายไปสำหรับ 2 ปี ก่อนเข้าทำรายการในกรณีที่จำเป็น
- ผลประโยชน์ที่บริษัทจดทะเบียนจะได้รับ
- ระบุแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการเข้าซื้อสินทรัพย์ กรณีเป็นการกู้ยืมจากสถาบันการเงินให้ระบุเงื่อนไขที่มีผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นด้วย
- ระบุแผนการใช้เงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์
- กรณีที่ออกหลักทรัพย์เพื่อชำระค่าซื้อ ให้ระบุประเภทหลักทรัพย์ จำนวนและราคาหลักทรัพย์ที่ออก
- เงื่อนไขที่จำเป็นอื่นที่ต้องดำเนินการก่อนเพื่อให้ได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์นั้น เช่นการต้องได้รับความเห็นชอบจากตลาดหลักทรัพย์ หรือธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
- กรณีบริษัทจดทะเบียนไปลงทุนในบริษัทที่มีบุคคลเกี่ยวโยงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และธุรกิจนั้นเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน ให้อธิบายเหตุผล ความจำเป็นและระบุมาตรการในการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- ความเห็นของคณะกรรมการเกี่ยวกับการเข้าทำรายการ (ว่ามีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทหรือไม่ อย่างไร และมีความเสี่ยงหรือมีข้อสังเกตอื่นใด หรือไม่) ในกรณีที่การเข้าทำรายการต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น คณะกรรมการต้องให้ความเห็นโดยระบุให้ชัดเจนว่าผู้ถือหุ้นควรอนุมัติหรือไม่ เพราะเหตุใด
- ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบหรือกรรมการบริษัทที่แตกต่างจากความเห็นของคณะกรรมการตามข้อ 15 รวมถึงกรณีที่กรรมการดังกล่าวงดออกเสียง
|
ความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) |
- IFA ต้องแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเข้าทำรายการต่อคณะกรรมการในเรื่องดังนี้
- ความสมเหตุสมผลและประโยชน์ต่อบริษัทจดทะเบียน
- ความเป็นธรรมของราคาและเงื่อนไขของรายการ
- ผู้ถือหุ้นควรลงมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับรายการ พร้อมระบุเหตุผลประกอบ
- ความเห็นเกี่ยวกับความเพียงพอของเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม กรณีรายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการ Backdoor Listing
- ให้บริษัทส่งความเห็น IFA พร้อมหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นให้สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อพิจารณาความเพียงพอของสารสนเทศ บริษัทเลือกส่งได้ 2 แบบคือ
- ส่งล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันทำการก่อนส่งเอกสารดังกล่าวให้ผู้ถือหุ้น
- ส่งให้พร้อมกับการส่งเอกสารดังกล่าวให้ผู้ถือหุ้น
|
การนำส่งหนังสือเชิญประชุมให้ผู้ถือหุ้น |
- ระยะเวลาการนำส่ง
นำส่งหนังสือเชิญประชุมให้แก่ผู้ถือหุ้นล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น
- ข้อมูลที่ต้องแสดงไว้ในหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น ได้แก่ความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) และเอกสารดังต่อไปนี้
- ข้อมูลที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อบริษัทตกลงเข้าทำรายการ
- ข้อความกล่าวถึงความรับผิดชอบของคณะกรรมการในการจัดทำสารสนเทศ
- ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอิสระ เช่น ผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน เป็นต้น
- รายละเอียดของภาระหนี้สินของบริษัท ได้แก่ ตราสารหนี้ เงินกู้ยืม เงินเบิกเกินบัญชีและภาระหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- ข้อมูลโดยสรุปของบริษัท เช่น รายชื่อผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ การประกอบธุรกิจและแนวโน้มของธุรกิจ ตารางสรุปงบการเงิน 3 ปีที่ผ่านมาและงบการเงินงวดล่าสุดพร้อมคำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยง ประมาณการทางการเงิน (ถ้ามี) เป็นต้น
- ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทต่อความเพียงพอของเงินทุนหมุนเวียน ในกรณีที่ไม่เพียงพอให้ระบุแหล่งที่มาของเงินทุนเพื่อการนี้
- คดีหรือข้อเรียกร้องที่มีสาระสำคัญ
- รายการระหว่างกัน
- สรุปสาระของสัญญาที่สำคัญในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
- บริษัทต้องเสนอชื่อกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 1 ท่านเป็นผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้น
|
 |
- กรณีเป็นลงทุนหรือยกเลิกการลงทุนในบริษัทใดๆ จนทำให้บริษัทนั้นมีสถานะเป็นบริษัทย่อยหรือสิ้นสภาพในการเป็นบริษัทย่อย บริษัทจะต้องแจ้งการลงทุนหรือยกเลิกการลงทุนในกิจการดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์การเปิดเผยสารสนเทศ กรณีลงทุนหรือยกเลิกการลงทุนในบริษัทใด
|