การวางแผนเกษียณด้วยประกันแบบบำนาญ

โดย ณรงค์ศักดิ์ พิริยะพงศ์, CFP® นักวางแผนการเงิน สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
46-retirement-planning-with-annuity
Highlight

เทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ทำให้คนมีอายุยืนขึ้น การวางแผนเกษียณโดยเฉพาะการวางแผนทางการเงินจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม และหนึ่งในเครื่องมือสำหรับวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ คือ “ประกันบำนาญ” เพราะเป็นรูปแบบประกันที่มีความเสี่ยงต่ำ มีผลตอบแทนที่ชัดเจนและต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยลดหย่อนภาษี และมีความคุ้มครองชีวิตตลอดระยะเวลาการออม ทำให้ในวันที่คุณเกษียณอายุแล้วก็ยังมีรายได้ไว้ดูแลสุขภาพร่างกาย และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างต่อเนื่อง

ผลการสำรวจในหลาย ๆ สถาบัน พบว่า คนเราจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีอายุยืนยาวมากขึ้นจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการรักษาสุขภาพ หรือไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น สิ่งที่ตามมา คือ เงินที่ต้องเตรียมไว้ใช้หลังเกษียณที่จะมากขึ้นตามไปด้วย

 

ปัจจุบันเครื่องมือสำหรับวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณมีหลากหลาย เช่น หากคุณเป็นข้าราชการ สามารถออมเงินในรูปแบบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หากคุณทำงานอยู่ในบริษัทเอกชน สามารถออมเงินผ่านกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่ถ้าหากคุณประกอบอาชีพอิสระ สามารถออมเงินผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

 

นอกจากนี้ ทุกกลุ่มอาชีพสามารถวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป กองทุน SSF (Super Saving Fund) และ กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) รวมถึงลงทุนในหุ้นโดยตรง

 

เช่นเดียวกัน การทำประกันชีวิตเริ่มมีบทบาทในการวางแผนเกษียณด้วย เพราะประกันชีวิตบางประเภทถูกออกแบบมาเพื่อการเกษียณโดยตรงเช่น “ประกันแบบบำนาญ” ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการคืนเงินให้ผู้เอาประกันเป็นประจำทุกรอบเวลาที่ตกลงตามเงื่อนไขประกันภายหลังหยุดชำระเบี้ยแล้ว เสมือนมีรายได้คงที่ต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่เกษียณอายุแล้วก็ตาม ข้อดีของประกันแบบบำนาญ คือ

 

  1. ความเสี่ยงต่ำประกันแบบบำนาญมีลักษณะเหมือนนำเงินออมแต่ละเดือนฝากเข้าบัญชีไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยผลตอบแทนที่ได้จะอยู่ในรูปแบบเงินบำนาญที่แบ่งจ่ายเป็นรายเดือนเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ทำให้เงินต้นที่จ่ายไปไม่หาย และมีรูปแบบความคุ้มครองชีวิตตั้งแต่วันที่เริ่มต้นทำสัญญา จึงทำให้รูปแบบประกันชนิดนี้มีความเสี่ยงต่ำ

 

  1. ช่วยประหยัดภาษีเมื่อถึงปลายปีที่ต้องวางแผนเรื่องภาษี ประกันบำนาญช่วยให้จ่ายภาษีน้อยลง โดยค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญจะให้ความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ในอัตรา 15% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน RMF และกองทุน SSF แล้ว สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

 

  1. กำหนดรับผลตอบแทนชัดเจนประกันบำนาญสามารถระบุเงินบำนาญที่ต้องการได้ตั้งแต่วันที่เริ่มทำสัญญา ทำให้มีความแน่นอนในเรื่องของผลตอบแทน สามารถตอบโจทย์เรื่องรายได้หลังเกษียณได้ ทำให้ง่ายต่อการวางแผนชีวิต ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และลดความกังวลใจภายหลังเกษียณอายุได้

 

  1. ช่วยวางแผนความคุ้มครองสุขภาพเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ผู้ที่เกษียณอายุแล้วจะเลิกส่งเบี้ยประกันสุขภาพเพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นทุกปี แต่ในทางกลับกันค่าใช้จ่ายภายหลังเกษียณอายุมักหมดไปกับการดูแลรักษาสุขภาพ จึงอยากได้รับความคุ้มครองจากประกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น วิธีที่จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ คือ การมีประกันแบบบำนาญที่จ่ายเงินคืนในช่วงหลังเกษียณ ซึ่งคุณอาจจะนำเงินในส่วนนี้มาใช้สำหรับการวางแผนจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ หรือใช้สำหรับดูแลตัวเองในช่วงเวลาหลังจากเกษียณได้เช่นกัน

 

ในการวางแผนเกษียณอายุ จะเห็นได้ว่าประกันชีวิตแบบบำนาญมีประโยชน์ คือ นอกจากจะช่วยให้มีเงินรายได้ที่บริษัทประกันจ่ายให้แน่นอนในทุกปี โดยไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยง และระหว่างทางยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 200,000 บาท

 

การออมเงินผ่านประกันแบบบำนาญ นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้มีวินัยออมเงินในระยะยาว เพราะการทำประกันเป็นการเตือนให้ต้องออมเงิน และหากมีเหตุไม่คาดฝัน เงินออมก็จะไม่หายหรือขาดทุน และมีความคุ้มครองชีวิตให้ตลอดทางระหว่างออมอีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนรู้เทคนิคการเพิ่มเงินออม และวิธีการสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวเพื่อเป้าหมายเกษียณ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “วางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่



บทความที่เกี่ยวข้อง