การตัดสินใจว่าจะ “ซื้อบ้าน” หรือ “เช่าบ้าน” ไม่ใช่เรื่องง่ายและยังคงเป็นคำถามโลกแตกสำหรับหลาย ๆ คน เพราะการตัดสินใจว่าจะเลือกทางไหน ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญของชีวิต เป็นการวางแผนชีวิตระยะยาว เพราะหากเลือกซื้อบ้านเป็นของตัวเองก็เป็นความฝันของใครหลายคน ในขณะเดียวกันการเช่าบ้านก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แล้วทางเลือกไหนกันแน่ที่เหมาะกับตัวเอง หากยังลังเลลองตั้งคำถาม 6 ข้อ เมื่อต้องเลือกระหว่างการซื้อกับการเช่า
ปัจจุบันยังมีการถกเถียงกันตลอดว่า ควรจะซื้อบ้านหรือเช่าบ้านเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งปัจจัยที่อาจวัดความคุ้มค่าได้ คือ ราคา ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากรายงาน DDproperty Thailand Market Report ไตรมาส 1 ปี 2567 พบว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศปรับเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
รายงานดังกล่าว ประเมินว่าท่ามกลางความท้าทายทางการเงินโดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย - ปานกลาง ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 อีกทั้ง สภาพเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซา ส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกชะลอแผนการซื้อบ้านออกไปก่อน
เห็นได้ชัดจากภาพรวมความต้องการซื้อทั่วประเทศช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ปรับลดลง 7% จากไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้า และลดลง 31% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2566 และปรับลดลงในทุกประเภทที่อยู่อาศัย โดยที่อยู่อาศัยระดับราคา 1 - 3 ล้านบาท ครองตลาดด้วยสัดส่วน 30% ของจำนวนที่อยู่อาศัยทั้งหมดทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคระดับกลาง – ล่าง ยังคงไม่มีกำลังซื้อเพียงพอที่จะดูดซับอุปทานเหล่านี้
สำหรับภาพรวมตลาดเช่าที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ พบว่ายังคงมีทิศทางเติบโตในแง่ของราคาอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1 ปี 2567 ดัชนีค่าเช่าที่อยู่อาศัยแนวสูง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมและอะพาร์ตเมนต์ปรับเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับดัชนีค่าเช่าที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่สวนทางกับความต้องการเช่าทั่วประเทศที่ปรับลดลง 10% จากไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้า และลดลง 25% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความต้องการเช่าไตรมาส 1 ปี 2567 จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ถือเป็นการลดแบบชะลอตัวลงจากช่วงที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเช่าที่กระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย สอดคล้องกับเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่เน้นเช่าบ้านมากกว่าซื้อ (Generation Rent) เนื่องด้วยความท้าทายจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้คนรุ่นใหม่และวัยทำงานไม่ต้องการเพิ่มภาระผูกพันทางการเงินในระยะยาวจากการซื้อที่อยู่อาศัย การเช่าจึงตอบโจทย์เรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่า และยังได้เปรียบในด้านความยืดหยุ่นและคล่องตัวหากต้องการย้ายที่อยู่อาศัยในอนาคต
โดยค่าเช่าที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอยู่ที่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน สะท้อนถึงกำลังซื้อและความสามารถในการใช้จ่ายของผู้เช่าในปัจจุบันที่ยังคงต้องรัดเข็มขัดต่อเนื่อง รองลงมา คือ 5,001 - 10,000 บาทต่อเดือน และ 10,001 - 15,000 บาทต่อเดือน ตามลำดับ
ยุคดอกเบี้ยสูง ซื้อบ้านลดลง
จากรายงาน DDproperty Thailand Market Report ฉบับเดียวกัน พบว่าผู้บริโภคกว่า 2 ใน 5 (44%) วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยในอีก 1 ปีข้างหน้า ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 53% ในรอบก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นสัญญาณสะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงไม่ฟื้นตัว สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ในกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางและล่างยังคงมีความเปราะบางทางการเงินจึงจำเป็นต้องลดการก่อหนี้ใหม่
ในทางกลับกันสัดส่วนของผู้เลือกเช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นถึง 14% ส่วนอีก 34% ยังไม่มีการวางแผนซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยใด ๆ ขณะที่อีก 8% จะรับมรดกที่อยู่อาศัยต่อจากพ่อแม่และผ่อนชำระต่อไปแทน
โดย 1 ใน 3 ของคนหาบ้านมีเงินพร้อมซื้อ เพื่อต้องการเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ (44%) ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในเวลานี้เนื่องจากต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากที่สุด รองลงมา คือ เลือกซื้อเพื่อการลงทุน 29% และซื้อเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับพ่อแม่และบุตรหลานให้มากขึ้น 27%
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาความพร้อมทางการเงินของผู้บริโภค พบว่ามีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าสนใจ โดย 1 ใน 3 ของผู้ที่วางแผนซื้อที่อยู่อาศัย (33%) มองว่ามีเงินออมเพียงพอที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง สะท้อนให้เห็นว่าคนหาบ้านยุคนี้ให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้นหลังจากเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจมาเป็นเวลานาน ขณะที่ผู้บริโภคเกือบครึ่ง (47%) เผยว่าเก็บเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น ส่วน 19% ของผู้วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยยังไม่ได้เริ่มแผนเก็บเงินใด ๆ เลย
เงินเก็บไม่พอ ทำให้ตัดสินใจเช่าบ้าน เหตุผลหลักที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกเช่าที่อยู่อาศัย กว่า 3 ใน 5 (61%) บอกว่ายังไม่มีเงินเก็บเพียงพอในการซื้อที่อยู่อาศัยในเวลานี้ ขณะที่เกือบ 2 ใน 5 (38%) มองว่าที่อยู่อาศัยมีราคาแพงเกินไปจึงเลือกเก็บออมเงินแทน และ 27% มองไม่เห็นความจำเป็นหรือความเร่งด่วนที่ต้องซื้อที่อยู่อาศัยตอนนี้ สะท้อนให้เห็นว่าสภาพคล่องทางการเงินยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคไม่พร้อมเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย จึงหันมาเลือกเช่าแทน
บทความที่เกี่ยวข้อง