Leveraged & Inverse ETF  เป็นอีทีเอฟที่มีนโยบาย สร้างผลตอบแทนในลักษณะทวีคูณ (Leveraged) หรือ ตรงกันข้ามกับดัชนีอ้างอิงแบบรายวัน (Inverse)

ผู้ลงทุนสามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยลงทุนได้ โดย Leveraged & Inverse ETF นี้ มีความเสี่ยงสูงกว่า ETF โดยทั่วไป เนื่องจากจะมีการปรับสัดส่วนการลงทุนทุกวัน (Daily Rebalance) เพื่อสร้างผลตอบแทนให้สามารถอ้างอิงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีรายวันได้ ซึ่งทำให้เกิดการคำนวณผลตอบแทนแบบทบต้น (Compounding Effect) จึงทำให้ผลตอบแทนจริงไม่เท่ากับผลตอบแทนของดัชนีที่คาดว่าจะได้รับหากถือครองเกิน 1 วัน จึงต้องระวังในการลงทุนระยะยาว นอกจากนี้ Leveraged & Inverse ETF ยังมีใช้อนุพันธ์เป็นเครื่องมือทำให้ค่าธรรมเนียมสูงกว่า ETF ทั่วไปอีกด้วย

โดย Leveraged & Inverse ETFs เป็น ETF ที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้

  • Leveraged ETF เป็น ETF ที่มีกลยุทธ์การบริหารจัดการที่มุ่งหวังผลตอบแทนทวีคูณจากผลตอบแทนรายวันของดัชนีอ้างอิง เช่น 2 เท่า (2X)
  • Inverse ETF เป็น ETF ที่มีกลยุทธ์การบริหารจัดการที่มุ่งหวังผลตอบแทนตรงกันข้ามกับผลตอบแทนรายวันของดัชนีอ้างอิง (-1X) และสามารถมีกลยุทธ์การบริหารจัดการที่มุ่งหวังผลตอบแทนตรงกันข้ามแบบทวีคูณกับผลตอบแทนรายวันของดัชนีอ้างอิงด้วยเช่นกัน (-2X)
  • เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนตามนโยบายที่ระบุไว้ L&I ETFs ส่วนใหญ่จะลงทุนผ่าน Derivatives เช่น Futures เป็นต้น
  • ผู้ลงทุนสามารถใช้ L&I ETFs เป็นเครื่องมือสร้างผลตอบแทนทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง โดยไม่ต้องวางหลักประกันเหมือน Derivatives
LTF-LI-img01

โดย Leveraged & Inverse ETFs มีความเสี่ยงเพิ่มเติมจาก ETF ทั่วไปดังนี้

  1. ผลตอบแทนของ ETF จะไม่เท่ากับผลตอบแทนของดัชนีที่คาดว่าจะได้รับกรณีถือครองเกิน 1 วัน
    • ผู้จัดการกองทุนต้องปรับสัดส่วนการลงทุนทุกวัน (Daily Rebalance) เพื่อสร้างผลตอบแทนให้สามารถอ้างอิงกับดัชนี รายวัน
    • การคำนวณผลตอบแทนเป็นการคำนวณแบบทบต้น (Compounding Effect) ทำให้การถือ L&I ETFs มากกว่าหนึ่งวัน อาจได้รับผลตอบแทนที่แตกต่างจากผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิงที่คาดว่าจะได้รับ
  2. L&I ETFs มีการทำธุรกรรมผ่าน Derivatives และต้อง Daily Balance ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าธรรมเนียมสูงกว่า ETF ทั่วไป
 Index or normal ETF (1X)BenchmarkLeveraged ETF (2X)
 IndexDaily returnTotal returnIndex Total return 2XNAVDaily returnTotal return
Day 0100   100  
Day 111010%10%20%12020%20%
Day 299-10%-1%-2%96-20%-4%
 

คำอธิบายตาราง

  • Daily return ของ Leveraged ETF เป็น 2 เท่าของดัชนี
  • ซึ่งหมายความว่ากองทุนต้อง Daily Rebalance เพื่อรักษาอัตรานี้ (-20% ใน Day 2 จึงคำนวณจากมูลค่ากองทุนที่ผ่านการ Rebalance จาก Day 1 (120))
  • ผลการคำนวณแบบทบต้น (Compounding Effect) ดังกล่าว ทำให้ Total return ของ Leverage ETF ต่ำกว่า (-4%) ผลตอบแทนของดัชนีที่คาดว่าจะได้รับ (Benchmark) ที่ (-2%)
  • ทั้งนี้ในบางกรณีเช่น Index เป็น Continuous trend ผลตอบแทนจาก L&I ETFs อาจดีกว่า Benchmark

สัญลักษณ์ Leveraged & Inverse ETFs

LTF-LI-img02

VDO เพื่อทำความเข้าใจ L&I ETFs

ถาม - ตอบ

L&I ETF (Leveraged & Inverse ETFs) คือ กองทุนรวม ETF (Exchange Traded Fund) ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผลตอบแทน *เป็นทวีคูณ* (Leveraged) หรือ *ตรงข้าม* (Inverse) กับผลตอบแทนรายวันของดัชนีอ้างอิง (Underlying Index) 
L&I ETF ใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures Contracts) เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย โดยจะคำนวณผลตอบแทน "รายวัน" จากการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิง และสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก คือ
  1. Leveraged ETF (กองทุน ETF ที่มุ่งสร้างผลตอบแทน เป็นทวีคูณในทิศทางเดียวกัน กับดัชนีอ้างอิง): เช่น 2X ETF หากดัชนีอ้างอิงปรับตัวขึ้น 1% กองทุน Leveraged ETF ที่มีอัตราทด 2 เท่า ควรจะให้ผลตอบแทนประมาณ 2% 
  2. Inverse ETF (กองทุน ETF ที่มุ่งสร้างผลตอบแทน ตรงข้าม กับดัชนีอ้างอิง): เช่น -1X ETF หากดัชนีอ้างอิงปรับตัวลดลง 1% กองทุน Inverse ETF ที่มีอัตราทด -1 เท่า ควรจะให้ผลตอบแทนประมาณ 1% 
  3. Leveraged Inverse ETF (กองทุน ETF ที่มุ่งสร้างผลตอบแทน เป็นทวีคูรในทิศทางตรงข้าม กับดัชนีอ้างอิง): เช่น -2X ETF หากดัชนีอ้างอิงปรับตัวลดลง 1% กองทุน Inverse ETF ที่มีอัตราทด -2 เท่า ควรจะให้ผลตอบแทนประมาณ 2% 
ลักษณะสัญลักษณ์ Leveraged และ Inverse ETFs

LTF-LI-img02

“2X” = Leveraged ETF ที่ให้ผลตอบแทน 2 เท่า ของดัชนีอ้างอิง (ในทิศทางเดียวกัน)
“2I” = Inverse ETF ที่ให้ผลตอบแทน -2 เท่า ของดัชนีอ้างอิง (ในทิศทางตรงกันข้าม)
L&I ETFs เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน และสามารถรับความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ได้ โดยเฉพาะนักลงทุนที่
  1. ต้องการเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงสั้น เช่น การซื้อขายรายวัน หรือถือครองระยะสั้น
  2. ต้องการใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงพอร์ตลงทุน (Hedging) ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน
  • - ETFs ทั่วไป ลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือสินทรัพย์อื่นโดยตรง เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง
  • - L&I ETFs ใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น เช่น ตราสารอนุพันธ์ เพื่อให้ผลตอบแทน "เป็นทวีคูณ" หรือ "ตรงข้าม" หรือ "เป็นทวีคูณในทิศทางตรงข้าม" กับดัชนีอ้างอิง
L&I ETFs มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมคล้ายกับ ETF ทั่วไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก L&I ETFs ใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ซับซ้อนกว่า เช่น การลงทุนในตราสารอนุพันธ์เพื่อสร้างผลตอบแทนทวีคูณหรือสวนทางกับดัชนีอ้างอิง จึงทำให้ Management Fee และค่าใช้จ่ายรวมของกองทุนอาจสูงกว่า ETF ทั่วไป นักลงทุนควรศึกษารายละเอียดค่าธรรมเนียมจากหนังสือชี้ชวนก่อนการลงทุนเพื่อให้เข้าใจต้นทุนที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน
นักลงทุนสามารถซื้อขาย L&I ETFs ได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ที่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (คลิก link)
L&I ETFs ถูกออกแบบมาให้ติดตามผลตอบแทนรายวัน (Daily Returns) ของดัชนีอ้างอิง ดังนั้นเมื่อถือครองในระยะยาว ผลตอบแทนอาจคลาดเคลื่อนจากที่คาดหวังเนื่องจาก ผลของการทบต้นรายวัน (Compounding Effect)
Compounding Effect คือผลตอบแทนทบต้นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละวัน ซึ่งอาจทำให้ผลตอบแทนสะสมในระยะยาวแตกต่างจากผลตอบแทนที่เราคาดว่าจะได้จากการคูณอัตราทดโดยตรง

ตัวอย่าง:
สมมตินักลงทุนซื้อ Leveraged ETF ที่มีอัตราทด 2 เท่า
ในวันแรก ดัชนีอ้างอิงอยู่ที่ 100 จุด ETF ราคา 100 บาท ถ้าวันนี้ดัชนีไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่า ETF ก็จะคงเดิม
ในวันที่ 2 ดัชนีเพิ่มขึ้น 10% → ETF จะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% มูลค่ากลายเป็น 120 บาท
ในวันที่ 3 ดัชนีกลับมาที่ 100 จุด (ลดลงจากวันก่อนหน้า 9.09%) → ETF จะลดลงประมาณ 18.18% จาก 120 บาท เหลือประมาณ 98.18 บาท

จะเห็นว่าแม้ดัชนีสุดท้ายกลับมาที่ระดับเดิม (ผลตอบแทนสะสมของดัชนี เท่ากับ 0%) แต่มูลค่า ETF กลับลดลงเพราะผลของการทบต้นรายวัน (Compounding Effect)
ดังนั้น L&I ETFs จึงเหมาะกับกลยุทธ์การถือครองระยะสั้น เพื่อเก็งกำไรจากแนวโน้มตลาดในช่วงสั้น หรือใช้บริหารความเสี่ยง มากกว่าการถือครองระยะยาว
L&I ETFs มีความเสี่ยงสำคัญหลายด้านที่นักลงทุนควรตระหนัก ได้แก่:
  1. ความเสี่ยงจากความผันผวน (Volatility Risk) : L&I ETFs มักมีความผันผวนสูงกว่า ETFs ทั่วไป เนื่องจากกลไกการทวีคูณผลตอบแทน
  2. ความเสี่ยงจากการทบต้นรายวัน (Compounding Risk) : การทบผลตอบแทนรายวันอาจทำให้ผลตอบแทนสะสมระยะยาวคลาดเคลื่อนจากที่คาดหวัง
  3. ความเสี่ยงจากอัตราทด (Leverage Risk) : อัตราทดที่สูงจะขยายผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนทั้งในทิศทางบวกและลบ
  4. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) : L&I ETFs บางตัวอาจมีสภาพคล่องต่ำกว่าการซื้อขายหุ้นหรือ ETFs ทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวน
โดยทั่วไป L&I ETFs เหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายรายวัน (Day Trading) หรือการถือครองเพียงไม่กี่วัน 
เนื่องจาก L&I ETFs ถูกออกแบบมาให้ติดตามผลตอบแทนรายวันของดัชนีอ้างอิง ดังนั้นการถือครองในระยะยาวในบางกรณี ผลตอบแทนสะสมอาจคลาดเคลื่อนจากที่คาดหวังอย่างมีนัยสำคัญอันเป็นผลมาจาก Compounding Effect หรือผลของการทบต้นรายวัน
ดังนั้น นักลงทุนจึงควรใช้ L&I ETFs เป็นเครื่องมือสำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น หรือเพื่อบริหารความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน มากกว่าการถือครองเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
ตัวอย่างวิธีการจัดการความเสี่ยง:
  • กำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสม : ลงทุนในจำนวนเงินที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
  • ใช้คำสั่ง Stop-Loss เพื่อช่วยจำกัดความเสียหายเมื่อราคาผิดทิศทาง
  • ติดตามราคาหน่วยลงทุนและผลตอบแทนของ L&I ETFs อย่างใกล้ชิด และปรับกลยุทธ์ตามสภาวะตลาด
นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยสำคัญดังนี้:
ดัชนีอ้างอิง (Underlying Index): ศึกษาว่า L&I ETF ติดตามดัชนีใด และดัชนีนั้นสอดคล้องกับมุมมองหรือกลยุทธ์การลงทุนของตนเองหรือไม่
อัตราทด (Leverage Factor): ตรวจสอบระดับอัตราทด เช่น 2 เท่า หรือ -1 หรือ -2 เท่า ว่าเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้
ค่าใช้จ่ายของกองทุน (Fee): เปรียบเทียบอัตราค่าใช้จ่ายรวมระหว่าง L&I ETFs ต่าง ๆ 
สภาพคล่อง (Liquidity): พิจารณาปริมาณการซื้อขายและมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถเข้าซื้อหรือขายได้
ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวน: ศึกษารายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนและข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ลงทุน เพื่อทำความเข้าใจโครงสร้าง กลไก และความเสี่ยงของกองทุนอย่างรอบด้าน
  • - ตระหนักว่าผลตอบแทนของ L&I ETFs ไม่ได้เป็นการทวีคูณผลตอบแทนของดัชนีในระยะยาว แต่ถูกออกแบบให้สะท้อนผลตอบแทน “รายวัน” ดังนั้นหากถือครองนาน ผลตอบแทนอาจแตกต่างจากที่คาดหวัง
  • - ทำความเข้าใจโครงสร้างการทำงานของกองทุนอย่างละเอียด โดยศึกษากลไกการคำนวณผลตอบแทน การใช้อัตราทด (Leverage) และผลของการทบต้นรายวัน (Compounding Effect)
  • - ความเสี่ยงผลิตภัณฑ์ที่สูงกว่าการลงทุนใน ETFs ทั่วไป เนื่องจาก L&I ETFs มีทั้งความผันผวนสูงและอาจส่งผลขาดทุนรวดเร็วหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง และไม่ใช่ผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อกระจายพอร์ตในระยะยาวแบบ ETFs ทั่วไป
  • - หนังสือชี้ชวน (Prospectus): อ่านหนังสือชี้ชวนของ L&I ETFs อย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจโครงสร้าง ค่าใช้จ่าย และความเสี่ยง
  • - เว็บไซต์ของผู้ออกกองทุน: ตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดผลิตภัณฑ์โดยตรงจากเว็บไซต์ของบริษัทจัดการกองทุน
  • - เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: (www.set.or.th) เพื่อค้นหารายชื่อกองทุนและข้อมูลพื้นฐาน
  • - บทวิเคราะห์หรือรายงานจากบริษัทวิจัย: เพื่อมุมมองจากนักวิเคราะห์มืออาชีพ
  • - ที่ปรึกษาทางการเงิน: ปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนหรือผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงของตนเอง