บริการแสดงผลข้อมูลการลงทุนใน LTF

FAQs

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)


ส่วนที่ 1 เกี่ยวกับบริการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนใน LTF

A:

เป็นบริการอำนวยความสะดวกในการรวบรวมข้อมูลการถือครองหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long-Term Equity Fund: LTF) จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทุกราย และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ขอใช้บริการ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตรวจสอบและตัดสินใจใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามประกาศของกรมสรรพากรในปี 2568

A:

ข้อมูลความหมาย
บลจ.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซึ่งเป็นผู้ออกกองทุน โดยจะแสดงผลเป็นชื่อย่อ

ผู้ลงทุนสามารถดูชื่อเต็มของ บลจ. ได้ที่ https://www.set.or.th/th/ltf/selling-agent-list
ช่องทางการซื้อช่องทางที่ผู้ลงทุนซื้อกองทุน ซึ่งอาจเป็น บลจ. หรือตัวแทนจำหน่าย เช่น ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน บริษัทประกัน เป็นต้น โดยจะแสดงผลเป็นชื่อย่อ

ผู้ลงทุนสามารถดูชื่อเต็มของช่องทางการซื้อได้ที่ https://www.set.or.th/th/ltf/selling-agent-list
เลขที่ผู้ถือหน่วยเลขที่ที่ บลจ. ออกให้กับผู้ลงทุน ซึ่งอาจต้องใช้อ้างอิงในการติดต่อกับ บลจ.
กองทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ผู้ลงทุนมีการถือครองอยู่ ซึ่งจะแสดงผลเป็นชื่อย่อ ผู้ลงทุนสามารถสอบถามชื่อเต็มได้ที่ บลจ. หรือตัวแทนจำหน่าย
หน่วยคงเหลือ ณ 11 มี.ค. 2568 (หน่วย)จำนวนหน่วยลงทุนคงเหลือ ณ วันที่ 11 มี.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุน Thai ESGX

หากต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เป็นกองทุน Thai ESGX ผู้ลงทุนจะต้องสับเปลี่ยน LTF ที่ถือครองอยู่ ณ วันที่ 11 มี.ค. 2568 ทั้งหมด ทุกกองทุน ทุก บลจ. เป็นกองทุน Thai ESGX ภายใน พ.ค.-มิ.ย. 2568 เท่านั้น
ข้อมูลล่าสุดข้อมูลล่าสุดตามที่ได้รับจาก บลจ.
- หน่วยคงเหลือ (หน่วย)จำนวนหน่วยลงทุนคงเหลือล่าสุด
- มูลค่าต่อหน่วย (บาท)มูลค่าหน่วยลงทุน หรือ NAV ต่อหน่วย ล่าสุด
- มูลค่า (บาท)มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ หรือ NAV ล่าสุด
- ข้อมูล ณ วันที่ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่

A:

หากประสงค์ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เป็นกองทุน Thai ESGX ผู้ลงทุนจะต้องสับเปลี่ยน LTF ที่ถือครองอยู่ ณ วันที่ 11 มี.ค. 2568 ทั้งหมด ทุกกองทุน ทุก บลจ. จึงจะเข้าข่ายได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งนี้ เงื่อนไขการสับเปลี่ยนเป็นไปตามที่สรรพากรกำหนด

A:

ข้อมูลที่ปรากฏในตารางจะแสดงข้อมูลการถือครอง LTF เฉพาะในส่วนที่ผู้ถือหน่วยเคยแจ้งเลขประจำตัวประชาชนไว้กับ บลจ. หากผู้ถือหน่วยไม่ได้แจ้งเลขประจำตัวประชาชนไว้กับ บลจ. ข้อมูลการถือครองหน่วยลงทุนดังกล่าวจะไม่ปรากฏอยู่ในตารางแสดงผล ผู้ถือหน่วยต้องติดต่อสอบถามข้อมูลจาก บลจ. หรือตัวแทนจำหน่ายที่ใช้บริการเพิ่มเติม

A:

ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกข้อ ดังต่อไปนี้
  1. ไม่เคยขายและไม่เคยสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไปกองทุนใด ๆ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป
  2. สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ที่ถือครองทั้งหมด (ทุกกองทุน ทุก บลจ.) ณ วันที่ 11 มี.ค. 2568 มายังกองทุน Thai ESGX ภายใน พ.ค.-มิ.ย. 2568
  3. ถือครอง Thai ESGX ที่สับเปลี่ยนมาจาก LTF ไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับจากวันที่ Thai ESGX รับสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน)
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. คลิกเพื่ออ่านรายละเอียด

A:

ผู้ลงทุนสามารถติดต่อ บลจ. หรือ ตัวแทนจำหน่าย (SA) ที่ท่านใช้บริการ เพื่อสอบถามขั้นตอน วิธีการ และแจ้งสับเปลี่ยน LTF ไปยัง Thai ESGX โดยต้องดำเนินการสับเปลี่ยนภายใน พ.ค. – มิ.ย. 2568 เท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งนี้ เงื่อนไขการสับเปลี่ยนเป็นไปตามที่สรรพากรกำหนด

A:

สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. คลิกเพื่ออ่านรายละเอียด

A:

ดูข้อมูลช่องทางการติดต่อได้ที่ https://www.set.or.th/th/ltf/selling-agent-list

ส่วนที่ 2 วิธีเข้าใช้บริการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนใน LTF และปัญหาเบื้องต้นในการใช้งาน

A:

สามารถใช้งานผ่านเว็บไซต์ ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ได้ที่ https://www.set.or.th/ltf

A:

ผู้ใช้งานจะต้องเป็นสมาชิก SET Member (สมัครได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ https://member.set.or.th/set-member/registration) และต้องทำการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพื่อขอใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน ThaID

A:

ผู้ลงทุนที่ต้องการใช้งาน โปรดดำเนินการ ดังนี้
  1. เปิดเว็บไซต์ https://www.set.or.th/ltf และเข้าสู่ระบบด้วย SET Member
  2. กดยินยอม “เงื่อนไขและข้อตกลงการใช้บริการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม” และ “ความยินยอมของผู้ถือหน่วยลงทุนในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม​”
  3. ยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaID
    1. 3.1. ระบบจะแสดง QR code สำหรับการยืนยันตัวตนผ่าน ThaID
      • กรณีเข้าใช้งานผ่านมือถือ และมีการลงทะเบียนกับ ThaID ไว้แล้ว ระบบจะดึงแอป ThaID ขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ
      • กรณีเข้าใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ และมีการลงทะเบียนกับ ThaID ไว้แล้ว ให้เปิดแอป ThaID และสแกน QR Code ด้วยกล้องของแอป ThaID โดยกดปุ่ม “สแกน” ที่หน้าหลัก
    2. 3.2. กรอก PIN 8 หลัก เพื่อเข้าสู่ระบบ ThaID
    3. 3.3. กดยินยอมให้ใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวตนเพื่อสมัครใช้งานบริการเรียกดูข้อมูลฯ
    4. 3.4. กรอก PIN 8 หลัก เพื่อยืนยันการทำรายการ
หมายเหตุ: เพื่อความสะดวกรวดเร็ว โปรดดาวน์โหลดและลงทะเบียนพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วย ThaID ให้เรียบร้อยก่อนสมัครใช้บริการ

A:

ผู้ประสงค์ขอลงทะเบียนระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วย ThaID สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน (ได้ทั้งระบบ IOS หรือ Android) และดำเนินการลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ
1. ลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยการถ่ายภาพบัตรประชาชนและภาพใบหน้า ผ่านแอป ThaID บนโทรศัพท์มือถือ
2. ลงทะเบียนผ่านเจ้าหน้าที่ โดยนำโทรศัพท์มือถือและบัตรประชาชนไปยังสำนักทะเบียนที่ให้บริการออกบัตรประชาชนทั่วประเทศ
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bora.dopa.go.th/app-thaid/

A:

กรณีใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ จะต้องทำการสมัครใช้บริการด้วย Default Browser ที่ตั้งไว้ในโทรศัพท์เท่านั้น และให้ใช้ Mode ปกติในการเปิด Browser (ไม่สามารถใช้ Incognito mode หรือ Private browsing ได้)

ในกรณีที่สมัครใช้บริการ โดยเปิด Link ซึ่งได้รับผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE ผู้ใช้งานต้องกดเลือก “Open in browser” เพื่อเปิดใช้งานบริการด้วย Browser ของโทรศัพท์ (ไม่สามารถสมัครใช้งานผ่าน Browser ของแอปพลิเคชัน LINE ได้)

A:

ท่านสามารถดำเนินการได้ 2 วิธี

  1. สมัครสมาชิก SET Member ใหม่ได้ง่าย ๆ เพียงกรอกข้อมูลที่ตรงกับระบบ ThaiD โดยใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องใช้เอกสาร https://member.set.or.th/set-member/registration/profile-registration
  2. ติดต่อ SET Contact Center โดยส่งสำเนาบัตรประชาชน ลงนามสำเนาถูกต้อง พร้อมระบุ "ขอแก้ไขข้อมูลสมาชิก SET Member (ชื่อ นามสกุล, เลขที่บัตร, วันเดือนปีเกิด) ให้ตรงกับบัตรประชาชน" กรุณาระบุช่องทางในการติดต่อกลับไว้ด้วย และ upload เอกสารที่ https://www.set.or.th/cc/dip โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการภายใน 1 วันทำการ

A:

ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากการที่ท่านไม่ได้กดยินยอมให้ใช้ข้อมูลในขั้นตอนการยืนยันตัวตนบนแอป ThaID หากท่านต้องการสมัครใช้บริการ จะต้องกด “ยินยอม” ให้ใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบการเรียกดูข้อมูล LTF (หลังจากกรอก PIN เข้าสู่ระบบ ThaID แล้ว)

A:

อาจเกิดได้จาก 2 สาเหตุคือ
  1. ท่านไม่มีการถือครอง LTF ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 และ ณ วันที่ บลจ. ส่งข้อมูลล่าสุด
  2. ท่านไม่ได้แจ้งเลขประจำตัวประชาชนไว้กับ บลจ. กรณีนี้ ท่านสามารถติดต่อ บลจ. หรือตัวแทนจำหน่ายที่ใช้บริการ เพื่อแจ้งข้อมูลเลขประจำตัวประชาชน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

A:

ติดต่อสอบถามหรือแจ้งข้อมูลได้ที่ บลจ. หรือตัวแทนจำหน่ายที่ท่านใช้บริการ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SET Contact Center
ผ่าน Live chat หรือ โทร. 0 2009 9999
ภายในวันและเวลาทำการ
(วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8:00 - 18:00 น.)

ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานบริการ