ท่ามกลางสงครามยูเครนกับรัสเซีย ที่กระทบกับซัพพลายเชนทั่วโลก ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลัง Covid-19 บริษัทจดทะเบียนไทยมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยพบว่ามีรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูงสุดในรอบ 17 ปี

จากรายงานของ ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่าน SET Note ฉบับ 19/2566 ที่เก็บข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในปี 2565 พบว่า บริษัทจดทะเบียนทั้งใน SET และ mai มีการลงทุนทางตรงในต่างประเทศ สูงถึง 287 บริษัท หรือ คิดเป็น 35% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เก็ตแคปรวมกัน อยู่ที่ 14 ล้านล้านบาท โดยบริษัทจดทะเบียนไทยมีมูลค่าเงินลงทุนทางตรงในต่างประเทศโดยรวมในปี 2565 อยู่ที่ 8.6 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 21.6%

 บจ. ไทยลงทุนอาเซียนมากที่สุด

การลงทุนไปต่างประเทศนั้นเป็นการหาโอกาสเติบโตใหม่โดยเฉพาะย่านอาเซียนที่เป็นคลื่นของการเติบโตลูกใหม่ของโลก บริษัทจดทะเบียนไทยเข้าไปลงทุนสูงที่สุด มีมูลค่าเงินลงทุน 3.84 หมื่นล้านบาท อันดับที่ 2 คือ อเมริกาเหนือ มีมูลค่าเงินลงทุน 2.62 หมื่นล้านบาท และอันดับที่ 3 คือ เอเชียตะวันออก มีมูลค่าลงทุน 9.61 พันล้านบาท 

 ในปี 2565 ประเทศที่บริษัทจดทะเบียนไทย มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุด คือ เวียดนาม หนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตสูงที่สุดในอาเซียน โดยมีสัดส่วนเงินลงทุน 82% เมื่อเทียบกับมูลค่าเงินลงทุนในอาเซียนทั้งหมด  โดยการลงทุนดังกล่าว หากในอนาคตเวียดนามมีการเติบโตที่ร้อนแรง บริษัทจดทะเบียนไทยที่เข้าไปลงทุนจะได้รับผลดีจากการเติบโตนั้น ด้วย

สร้างรายได้ 5.81 ล้านล้านบาท

เมื่อการลงทุนในต่างประเทศมีทิศทางทื่เพิ่มขึ้น ช่วยสร้างรายได้กลับมาประเทศไทยด้วยเช่นกัน  โดยในปี 2565 พบว่า มีบริษัทจดทะเบียน 335 แห่งที่มีรายได้จากต่างประเทศ สร้างรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 5.81 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ถึง 1.75 ล้านล้านบาท หรือ มูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 43.08% เลยทีเดียว

 รายได้จากต่างประเทศเริ่มมีบทบาทสำคัญกับการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย โดยล่าสุด บริษัทจดทะเบียนไทยมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 31%  ทำสถิติสูงสุดในรอบ 17 ปี จากรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดที่ 18.5 ล้านล้านบาท  

โดยบริษัทจดทะเบียนฯ มีรายได้จากภูมิภาคเอเชีย มากที่สุด ประมาณ 2 ล้านล้านบาท  และพบว่าบริษัทจดทะเบียนฯ มีรายได้สูงสุดมาจากประเทศเวียดนาม สูงถึง 3.3 แสนล้านบาท

กลุ่มธุรกิจที่มีรายได้เติบโตสูงสุด คือ ธุรกิจทรัพยากร มีรายได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 59% จากปี 2564 ซึ่งเป็นผลจากราคาพลังงานโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และปริมาณการขายรวมที่เพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 

อย่างก็ตาม ภาพดังกล่าวสะท้อนถึงการกระจายตัวของรายได้ธุรกิจไทย โดยในอนาคตหากบริษัทจดทะเบียนไทย มีการลงทุนทางตรงในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมากขึ้น และสร้างความมั่นคงให้กับตลาดหุ้น และผู้ลงทุนไทยได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว