ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะก้าวสั้น ก้าวยาวก็แล้วแต่ แต่ขาหนึ่งต้องยืนให้มั่น

โดย SET
29.SET-Source-Q-นายประสาร-ไตรรัตน์วรกุล

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะก้าวสั้น ก้าวยาวก็แล้วแต่ แต่ขาหนึ่งต้องยืนให้มั่น

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา มีความเจริญก้าวหน้าอย่างชัดเจน ทั้งในเชิงปริมาณ ขนาด และระดับความซับซ้อน การพัฒนาดังกล่าวเกิดขึ้นควบคู่ไปกับพัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมาก

 

แน่นอนว่าในบางช่วงเวลา จุดเน้นของการพัฒนาอาจเปลี่ยนแปลงไป เช่น เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 ความเชื่อมั่นต่าง ๆ ลดลง ทำให้ในช่วง 5-10 ปีต่อมา มีการมุ่งเน้นเรื่องบรรษัทภิบาลที่ดี (Governance) หลังจากปี 2550 ระบบเศรษฐกิจและสังคมไทยมีความซับซ้อนมากขึ้น มีความเชื่อมโยงกับต่างประเทศมากขึ้น คนไทยสนใจลงทุนต่างประเทศ ทำให้ต้องพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง มีการให้ความสำคัญด้านอื่น ๆ เช่น สิ่งแวดล้อม ภูมิอากาศ และปัญหาสังคม ตลาดทุนไทยให้ความสำคัญกับ ESG ค่อนข้างมาก มีการสนับสนุนในหลากหลายรูปแบบ ทำให้มีบริษัทจดทะเบียนไทยเข้าไปอยู่ในดัชนีสำคัญของโลก เช่น DJSI, S&P และอื่น ๆ ส่งผลให้ภาคธุรกิจเกิดความตื่นตัว นอกจากนี้ ยังมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถซื้อขายได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ โดยพยายามไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบที่ไม่เป็นธรรม

 

ในขณะเดียวกัน Megatrend ต่าง ๆ ก็เพิ่มความรุนแรงขึ้น สร้างความวิตกกังวลในตลาดเงินและตลาดทุนไม่น้อย อีกทั้งความผันผวนในระบบเศรษฐกิจมหภาคยังส่งผลกระทบไม่เฉพาะต่อตลาดทุนไทย แต่กระทบประเทศอื่นค่อนข้างมากด้วย สิ่งที่ทำได้คือการเตรียมความพร้อม และพยายามเอื้ออำนวยให้ตลาดทุนของไทยมี Resiliency คือทนทานต่อความเสี่ยงและผลกระทบต่าง ๆ แม้ระยะสั้นถูกกระทบแต่เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายก็สามารถ Bounce Back กลับมาได้

 

สำหรับแนวคิดการทำงานตลาดทุนในอนาคตนั้น หลักการพื้นฐานบางอย่างยังสามารถใช้เป็นแกนหลัก แต่ต้อง ประยุกต์และให้น้ำหนักแต่ละเรื่องตามบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป

 

หลักการที่ 1: ความน่าเชื่อถือ เป็นหลักการที่ใช้ได้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ความน่าเชื่อถือมาจากกฎเกณฑ์และกติกาต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นและดูแลให้มีความเป็นธรรม ทั้งกฎกติกาซื้อขาย การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และการกำกับดูแล บางครั้งอาจเกิดเหตุที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจก็ต้องปรับตัวให้ทัน บางเรื่องก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น ต้องทำงานร่วมกัน รวมทั้งต้องเพิ่มน้ำหนักในเรื่องการป้องกันการหลอกลวงลงทุน ต้องมีกระบวนการทั้งการให้ความรู้ การเตือนสติ และระบบการสื่อสารที่ทันการณ์

 

หลักการที่ 2: ความสามารถในการแข่งขัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องสามารถแข่งขันในบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบันผู้ลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศมีทางเลือกมากขึ้น โดยสามารถลงทุนในตลาดต่างประเทศอื่น ๆ ได้ ขณะที่บริษัทก็สามารถเลือกจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใดก็ได้ทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงต้องสร้างความน่าสนใจและจูงใจให้คนมาลงทุนด้วย การมีบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต  รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นระบบการซื้อขาย ระบบชำระราคา เพื่อเสริมศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน

 

หลักการที่ 3: การตอบสนองความต้องการของสังคมและผู้มีส่วนได้เสีย ปัจจุบันทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญกับความยั่งยืนหรือ ESG รวมถึงเรื่องการพัฒนาธุรกิจ การพัฒนาด้านบุคลากร ทั้งของตลาดหลักทรัพย์ฯ และในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการให้ความรู้ด้านการเงินการลงทุน

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน 50 ปีที่ผ่านมา สามารถเติบโตได้ถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อตั้ง พิสูจน์ได้ว่า เดินมาถูกทางแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีบทเรียนให้เราศึกษาและก้าวเดินต่อไป การก้าวเดินต่อไปนั้น สิ่งสำคัญคือขาข้างหนึ่งต้องยืนให้มั่น ต้องให้ความสำคัญเรื่องเสถียรภาพ ความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ

อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้จากหนังสือที่ระลึกตลาดหลักทรัพย์ฯ  ครบรอบ 50 ปี ได้ที่ https://50th-anniversary.setgroup.or.th/
 


บทความที่เกี่ยวข้อง