วันที่/เวลา 18 ส.ค. 2568 13:02:00
SET News :ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกำหนด "6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการไทย" ยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน
หลักทรัพย์ SET
แหล่งข่าว SET
JOINT RELEASE
ฉบับที่ 71/2568
18 สิงหาคม 2568
ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกำหนด "6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการไทย"
ยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน
Key Points
- ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมจัดทำ 6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการไทย
เพื่อส่งเสริมให้กรรมการบริษัทจดทะเบียนมีความรู้ เข้าใจบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน
พร้อมส่งเสริมให้องค์กรที่ทำหน้าที่จัดหลักสูตรฝึกอบรมกรรมการ ได้พัฒนาหลักสูตรเพื่อเป็นทางเลือกมากขึ้น
- 6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการไทย ประกอบไปด้วย 1)
บทบาทและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการอย่างมีประสิทธิผล 2)
ความรับผิดชอบของคณะกรรมการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3)
ความรับผิดชอบของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีและการเงิน 4) การกำกับดูแลความเสี่ยง
เชิงกลยุทธ์ขององค์กร 5) การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน และ 6) การรายงานและการเปิดเผยข้อมูล
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
กล่าวว่า ก.ล.ต. มุ่งมั่นส่งเสริมและยกระดับบรรษัทภิบาลที่ดีของบริษัทจดทะเบียน โดยตระหนักว่า
คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงเป็นหัวใจสำคัญและพลังขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายดังกล่าว
ธรรมาภิบาลที่ดีเริ่มต้นจากผู้นำองค์กรที่เป็นแบบอย่างที่ดี (Set Tone at the Top)
ในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส และยึดมั่นในจริยธรรม
เพื่อวางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ด้วยจำนวนกรรมการบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ก.ล.ต. จึงได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดมาตรฐาน 6
องค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพกรรมการให้เข้มข้น ครอบคลุมยิ่งขึ้น
และเพื่อให้กรรมการมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้
ก.ล.ต. ยังสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนมีระบบและกลไกภายในที่จะสามารถสร้างวินัยในตนเอง (Self-Discipline)
โดยการนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG Code)
มาปรับใช้เพื่อยกระดับการกำกับดูแลกิจการให้โปร่งใสและน่าเชื่อถือ
ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
และนำไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจ สังคม และตลาดทุนโดยรวม
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
โดยมีบรรษัทภิบาลเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ
และตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี
โดยเฉพาะการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งของคณะกรรมการในการดูแลผลประโยชน์ขององค์กร แม้ประเด็นทุจริต
การกระทำผิดจรรยาบรรณ
และความบกพร่องในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทจะมีสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้
งหมด แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมุ่งพัฒนาเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล
และส่งเสริมการพัฒนาระบบกำกับดูแลที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
ได้กำหนดมาตรฐานองค์ความรู้สำคัญเพื่อเป็นรากฐานการทำหน้าที่ของกรรมการอย่างมืออาชีพ ได้แก่ 1)
บทบาทและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการอย่างมีประสิทธิผล 2)
ความรับผิดชอบของคณะกรรมการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3)
ความรับผิดชอบของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีและการเงิน 4)
การกำกับดูแลความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ขององค์กร 5) การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน และ 6)
การรายงานและการเปิดเผยข้อมูล
วัตถุประสงค์หลักของการกำหนดมาตรฐานองค์ความรู้สำคัญ 6 ด้าน ประการแรก
เพื่อสนับสนุนให้กรรมการทุกคนได้รับความรู้พื้นฐานสำหรับการปฏิบัติหน้าที่อย่างครบถ้วน
เป็นปัจจุบันและสม่ำเสมอ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนของ ก.ล.ต.
และตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเปิดเผยข้อมูลการพัฒนาตนเอง ผ่านแบบ 56-1 One Report ประการที่สอง
เพื่อให้องค์กรทั้งไทยและต่างประเทศที่จัดอบรมให้แก่กรรมการ
เข้าใจและสามารถพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานความรู้ตามที่ภาคตลาดทุนร่วมกันกำหนด
ซึ่งจะช่วยให้กรรมการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบ เต็มความสามารถ และเกิดประสิทธิผล
นอกจากมาตรฐานองค์ความรู้ทั้ง 6 ด้านแล้ว กรรมการควรพัฒนาทักษะความรู้อื่นที่จำเป็น อาทิ
ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจขององค์กร การกำกับดูแลความมั่นคงด้านสารสนเทศและปัญญาประดิษฐ์
และการจัดการภาวะวิกฤต
ปัจจุบันมีสถาบันจัดอบรมความรู้กรรมการในประเทศหลายแห่งที่ได้พัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์ควา
มรู้กรรมการ ได้แก่ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD)
ที่เป็นหน่วยงานพัฒนาความเป็นมืออาชีพของกรรมการ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ เช่น สภาวิชาชีพบัญชี
สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย และมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ
***********************************************
______________________________________________________________________