วันที่/เวลา 29 เม.ย. 2567 17:48:00

หัวข้อข่าว

ชี้แจงข่าวหรือข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สอบถาม

หลักทรัพย์ GSC
แหล่งข่าว GSC
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ชี้แจงข่าวหรือข้อมูล เรื่อง : ชี้แจงข้อมูลในงบการเงิน ประจำปี 2566 รายละเอียด : ตามที่บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ได้นำส่งงบการเงิน ประจำปี 2566 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตมายังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์ฯ") ซึ่งผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขกรณีไม่สามารถหาหลักฐานการสอบบัญชีของบัญชีเงินฝากธนาคารข องกลุ่มบริษัท 70 ล้านบาท และมีข้อสังเกตกรณีบริษัทได้รับหนังสือจากกรรมการของบริษัท 4 ท่านในเดือนกันยายน 2566 ขอให้ระงับการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 150 ล้านบาท และรายการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยมูลค่า 60 ล้านบาท ดังมีรายละเอียดตามข่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงวันที่ 23 เมษายน 2567 เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ GSC และติดตามคำชี้แจงของบริษัท ตามเอกสารที่อ้างถึงที่ 1 นั้น บริษัทจึงขอเรียนชี้แจงข้อมูลตามคำถามของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนี้ ประเด็นที่ 1 สาเหตุที่ผู้สอบบัญชีถูกจํากัดขอบเขตโดยสถานการณ์ทําให้ไม่สามารถส่งหนังสือยืนยันยอดเงินฝากธนาคารของกลุ ่มบริษัท จำนวนเงินประมาณ 70 ล้านบาทได้ ในขณะที่บริษัทแต่งตั้งคณะกรรมการแล้ว บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า ในช่วงเวลาที่ผู้สอบบัญชีขอดูข้อมูลหนังสือยืนยันเงินฝากธนาคารของบริษัทย่อยของบริษัท ซึ่งได้แก่ (1) บริษัท อัลไลแอนซ์ แคช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (2) บริษัท จีเอ็มบี โซลูชั่น จำกัด และ (3) บริษัทบริหารสินทรัพย์ แคปปิตอล เอเซีย จำกัด เพื่อใช้ในการจัดทำงบการเงินของบริษัทประจำปี 2566 นั้น แม้ว่าบริษัทเองได้เสร็จสิ้นกระบวนการแต่งตั้งและเปลี่ยนกรรมการชุดใหม่แล้วก็ตาม แต่ในขณะนั้นบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นกลุ่มอื่นของบริษัททั้ง 3 บริษัท เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ แก้ไขอำนาจลงนามของกรรมการ และแก้ไขอำนาจลงนามในบัญชีธนาคารของแต่ละบริษัทอยู่ ดังนั้น ในขณะนั้นบริษัทจึงไม่สามารถนำส่งหนังสือยืนยันยอดเงินฝากธนาคารของบริษัทย่อย จำนวนเงินประมาณ 70 ล้านบาทดังกล่าวให้กับผู้สอบบัญชีตามที่ผู้สอบบัญชีร้องขอได้ แต่บริษัทได้รายงานความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวให้ผู้สอบบัญชีทราบมาโดยตลอด อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ และอำนาจลงนามในบัญชีธนาคารของบริษัทย่อยจำนวน 2 บริษัท คือ (1) บริษัท อัลไลแอนซ์ แคช คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ (2) บริษัท จีเอ็มบี โซลูชั่น จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 และผู้สอบบัญชีได้รับหนังสือยืนยันยอดเงินฝากธนาคารของบริษัทย่อยทั้ง 2 บริษัทนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือแต่บริษัทบริหารสินทรัพย์ แคปปิตอล เอเซีย จำกัด ที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการภายในเพื่อเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัท แก้ไขอำนาจลงนามของกรรมการ และแก้ไขอำนาจลงนามในบัญชีธนาคารของบริษัทดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ เมื่อบริษัทดำเนินการเปลี่ยนแปลงอำนาจลงนามในบัญชีธนาคารทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทก็จะสามารถชี้แจงและให้ข้อมูลทั้งหมดเพื่อประโยชน์ในการสอบบัญชีอย่างครบถ้วนถูกต้องได้ต่อไป ประเด็นที่ 2 การพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับภาระผูกพันของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างก่อนทํารายการ หรือชําระเงินมัดจํา ตามที่บริษัทได้เคยชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามเอกสารที่อ้างถึงที่ 2 บริษัทขอเรียนว่า การพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับภาระผูกพันของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างก่อนทำรายการ และการชำระเงินมัดจำ อยู่ในขอบอำนาจการอนุมัติโดยของคณะกรรมการบริษัท ซึ่งการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเป็นคณะกรรมการคนละชุดกับคณะกรรมการบริษัทชุดปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดอำนาจการอนุมัติที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1) การเข้าทำธุรกรรมการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ประเภทที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและส่วนปรับปรุงพัฒนา) - การวางเงินมัดจำหรือเงินประกันต่อบุคคลหรือกิจการภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการและสาธารณูปโภค วงเงินเกินกว่า 500,000 บาท ต้องดำเนินการเสนอโดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และอนุมัติโดยคณะกรรมการบริหาร - การอนุมัติการขอซื้อสินทรัพย์ถาวร วงเงินเกินกว่า 5 ล้านบาท ต้องดำเนินการเสนอโดยคณะกรรมการบริหาร และอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัท 2) การเข้าทำธุรกรรมการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท แอสเซท เอเจนท์ แอนด์ เรียลเอสเตท จำกัด (สิ้นสภาพบริษัทย่อย) - การขายสินทรัพย์ (ยกเว้นอสังหาริมทรัพย์) มูลค่าตามบัญชีเกินกว่า 10 ล้านบาท ต้องดำเนินการเสนอโดยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัท โดยในการนี้ บริษัทโดยคณะกรรมการชุดปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทชุดวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 พิจารณาอนุมัติ ว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องสมบูรณ์หรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมใด ๆ บริษัทจะชี้แจง และเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท ประเด็นที่ 3 ความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายการซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และการขาย A2R รวมถึงผู้มีอํานาจลงนามในการทําธุรกรรมดังกล่าวตามที่บริษัทได้เคยเปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 และวันที่ 1 เมษายน 2567 บริษัทขอเรียนแจ้งเกี่ยวกับความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายการซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และการขายบริษัท แอสเซท เอเจนท์ แอนด์ เรียลเอสเตท จำกัด ("A2R") รวมถึงผู้มีอํานาจลงนามในการทําธุรกรรมดังกล่าว ดังต่อไปนี้ 1) ธุรกรรมการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ประเภทที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและส่วนปรับปรุงพัฒนา) ตามที่เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 บริษัท ดิจิตอล พี.วี. จำกัด ("ผู้จะขาย") ไม่มีความพร้อมที่จะโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามสัญญาจะซื้อจะขายทรัพย์สิน ฉบับลงวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ("สัญญาจะซื้อจะขายฯ") ให้แก่บริษัท อันเป็นกรณีที่ผู้จะขายผิดสัญญาจะซื้อขายที่ดินฉบับนี้ ตามที่บริษัทได้เคยเรียนชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ตามเอกสารที่อ้างถึงที่ 2 ต่อมาบริษัทได้ส่งหนังสือให้แก่ผู้จะขาย เพื่อขอให้ผู้จะขายปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาจะซื้อจะขายฯ ในการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่จะซื้อขาย (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) ที่ปราศจากภาระผูกพัน รวมถึงภาระติดค้าง หรือภาระหนี้สินอย่างใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่จะซื้อขายให้แก่บริษัท อย่างไรก็ตาม ผู้จะขายกลับมีหนังสือตอบกลับมายังบริษัทเพื่อขอปฏิเสธการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามสัญญา จะซื้อจะขายฯ ขอบอกเลิกสัญญา และริบเงินมัดจำและราคาซื้อขายจำนวน 100 ล้านบาทที่บริษัทชำระไปแล้วทั้งจำนวน โดยบริษัทจึงได้มีหนังสือตอบกลับไปยังผู้จะขายอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันขอให้ปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายฯ โดยปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของผู้จะขายทั้งหมด เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 บริษัทได้เดินทางไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี พร้อมเช็คเงินสดจำนวน 50 ล้านบาท สำหรับการชำระราคาซื้อขายที่ดินงวดสุดท้ายตามสัญญาจะซื้อจะขายฯ แต่ไม่พบผู้จะขายหรือผู้รับมอบอำนาจผู้จะขายที่สำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานีแต่อย่างใด แม้ว่าผู้จะขายได้รับหนังสือของบริษัทโดยชอบแล้วก็ตาม ดังนั้น จึงถือว่าผู้จะขายจงใจไม่ปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญาจะซื้อจะขายฯ ภายในระยะเวลาพอสมควรตามที่บริษัทฯ ได้บอกกล่าวให้ผู้จะขายดำเนินการ และเป็นฝ่ายผิดสัญญาจะซื้อจะขายฯ ในข้อสาระสำคัญ ต่อมา เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 บริษัทจึงได้ส่งหนังสือขอบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายฯ กับผู้จะขาย โดยให้มีผลบังคับในทันทีนับแต่วันที่ผู้จะขายได้รับหนังสือขอบอกเลิกสัญญาดังกล่าว และขอให้ผู้จะขายดำเนินการคืนเงินมัดจำจำนวน 60 ล้านบาท และเงินค่าทรัพย์สินงวดที่ 2 จำนวน 40 ล้านบาท รวมเป็นเงินจำนวน 100 ล้านบาท (เรียกรวมกันว่า "เงินที่บริษัทจ่ายไปทั้งหมด") พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 100 ล้านบาท ("ดอกเบี้ย") นับแต่วันที่ผู้จะขายได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจนกว่าจะชำระเงินจำนวน 100 ล้านบาทให้แก่บริษัทฯ ครบถ้วน โดยขอให้ชำระภายใน 14 วันนับแต่วันที่ผู้จะขายได้รับหนังสือฉบับนี้จากบริษัท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้รับเงินที่บริษัทจ่ายไปทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ยคืนแต่อย่างใด บริษัทจึงอยู่ระหว่างการรับคืนเงินจำนวนดังกล่าว และหากผู้จะขายเพิกเฉยไม่ดำเนินการดังกล่าวภายในกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะดำเนินการทางกฎหมายและเรียกร้องค่าเสียหายต่าง ๆ กับผู้จะขายต่อไปในทันที ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมใด ๆ บริษัทจะชี้แจง และเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท 2) ธุรกรรมการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ A2R บริษัทขอเรียนว่า เนื่องจากเอกสารและข้อเท็จจริงสำหรับการพิจารณา และตรวจสอบกรณีธุรกรรมการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ A2R มีจำนวนมาก ขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบสำหรับการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมใด ๆ บริษัทจะชี้แจง และเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท ประเด็นที่ 4 สาเหตุที่บริษัทรับรู้กําไรและขาดทุนการขาย A2R ในแต่ละงวดบัญชีต่างกัน บริษัทขอเรียนว่า ข้อมูลทางบัญชีที่คลาดเคลื่อนในประเด็นนี้เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิคของบริษัท เนื่องจากบริษัทมีการตัดรายการซ้ำซ้อนบนข้อมูลรายการทางบัญชีในไตรมาส 3 ที่บริษัทนำส่งให้กับผู้สอบบัญชี จึงทำให้ตัวเลขที่คำนวณออกมาแสดงผลเป็นกำไรจากการขายเงินลงทุนใน A2R ทั้งนี้ บริษัทต้องอภัยในความผิดพลาดนี้ และขอยืนยันว่าความคลาดเคลื่อนของข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความจงใจของบริษัทแต่อย่างใด บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลที่บริษัทชี้แจงข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของผู้ลงทุนสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษั ท ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมใด ๆ บริษัทจะชี้แจง และเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป ลงลายมือชื่อ ___________________________ ( ชญานี สังข์ทองวิเศษ ) กรรมการ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้