กำหนดการประชุมผู้ถือหุ้น เรื่อง : กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่คณะกรรมการมีมติ : 28 ก.พ. 2565 วันที่ประชุมผู้ถือหุ้น : 09 เม.ย. 2565 เวลาเริ่มประชุม (h:mm) : 10 : 00 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record : 15 มี.ค. 2565 date) วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม : 14 มี.ค. 2565 วาระการประชุมที่สำคัญ : - งดจ่ายเงินปันผล - การได้มาหรือจำหน่ายสินทรัพย์ - รายการที่เกี่ยวโยงกัน สถานที่ประชุม (แก้ไข) : ผ่านสืออืเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) ______________________________________________________________________ การจ่ายปันผล / การงดจ่ายปันผล เรื่อง : งดจ่ายเงินปันผล วันที่คณะกรรมการมีมติ : 28 ก.พ. 2565 งดจ่ายปันผลจาก : งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ______________________________________________________________________ รายการที่เกี่ยวโยงกัน 4. พิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการเกี่ยวกับการขายที่ดินและหุ้นสามัญให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันและให้เสน อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการเกี่ยวกับการขายที่ดินและหุ้นสามัญให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 4.1 การขายที่ดินของบริษัทฯ และที่ดินที่บริษัทฯ ถือกรรมสิทธิ์รวมกับนายเกรียงศักดิ์ สุวิวัฒน์ธนชัย เป็นจำนวน 1 แปลง โดยมีเนื้อที่รวม 14 ไร่ 65 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ให้แก่บริษัท สุพรรณนิมิต จำกัด ("SUP") ซึ่งเป็นบริษัทที่นางสาวกรภัทร์ สุวิวัฒน์ธนชัย ("นางสาวกรภัทร์") ซึ่งเป็นน้องสาวของนายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย ที่เป็นกรรมการและกรรมการผู้จัดการของบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.98 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ SUP ในราคาซื้อขายทั้งสิ้น 431,000,000 บาท ("ธุรกรรมการขายที่ดินให้แก่ SUP") การเข้าทำธุรกรรมการขายที่ดินให้แก่ SUP ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า "ประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์") โดยคำนวณขนาดรายการได้เท่ากับร้อยละ 1.0 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่คำนวณขนาดรายการได้สูงสุดจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ สำหรับปี 2564 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของบริษัทฯ แล้ว ("งบการเงินฯ") นอกจากนี้ ธุรกรรมการขายที่ดินให้แก่ SUP เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ประเภทรายการสินทรัพย์หรือบริการ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า "ประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกัน") เนื่องจากเป็นการเข้าทำรายการกับนิติบุคคลที่มีนางสาวกรภัทร์ ซึ่งเป็นญาติสนิทของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้มีอำนาจควบคุมของนิติบุคคลดังกล่าว โดยมีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 5.5 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ 4.2 การขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัท ยูนิค เรียลเอสเตท แอนด์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ("UR") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ UR ให้แก่นางสาวกรภัทร์ ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,609,000,000 บาท("ธุรกรรมการขายหุ้นใน UR") การเข้าทำธุรกรรมการขายหุ้นใน UR ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ โดยคำนวณขนาดรายการได้เท่ากับร้อยละ 32.2 ตามเกณฑ์กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่คำนวณขนาดรายการได้สูงสุดจากงบการเงินฯ นอกจากนี้ ธุรกรรมการขายหุ้นใน UR เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ประเภทรายการสินทรัพย์หรือบริการ ตามประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกัน เนื่องจากเป็นการเข้าทำรายการกับนางสาวกรภัทร์ ซึ่งเป็นญาติสนิทของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ โดยมีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 20.5 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ ทั้งนี้ ธุรกรรมการขายที่ดินให้แก่ SUP และธุรกรรมการขายหุ้นใน UR (รวมเรียกว่า "ธุรกรรมของบริษัทฯ") ไม่เข้าข่ายเป็นการขายหรือโอนกิจการของบริษัทฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนที่สำคัญให้แก่บุคคลอื่น ตามมาตรา 107(2)(ก) แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจากัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) เนื่องจากสินทรัพย์ที่จำหน่ายไปในธุรกรรมของบริษัทฯ ไม่ใช่สินทรัพย์ที่สำคัญต่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมของบริษัทฯ เป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการรวมสูงสุดเมื่อคำนวณตามเกณฑ์กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน เท่ากับร้อยละ 32.2 จากงบการเงินฯ โดยบริษัทฯ ไม่มีรายการย้อนหลังซึ่งเข้าข่ายต้องรวมคำนวณขนาดรายการในช่วงระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่ที่ประชุมมีมติอนุมัติธุรกรรมของบริษัทฯ ดังนั้น ธุรกรรมของบริษัทฯ จึงเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ซึ่งมีขนาดรายการสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ส่งผลให้บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยสารสนเทศสำหรับการเข้าทำธุรกรรมของบริษัทฯ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เห็นสมควรให้นำเสนอธุรกรรมของบริษัทฯ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติธุรกรรมของบริษัทฯ ดังกล่าว ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ นอกจากนี้ ธุรกรรมของบริษัทฯ มีขนาดรายการที่เกี่ยวโยงกันรวมเท่ากับ 2,040,000,000 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 26.1 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ไม่มีรายการย้อนหลังซึ่งเข้าข่ายต้องรวมคำนวณขนาดรายการในช่วงระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่ที่ประชุมมีมติอนุมัติธุรกรรมของบริษัทฯ รายการดังกล่าวจึงมีมูลค่ามากกว่าร้อยละ 3 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนการเข้าทำธุรกรรมของบริษัทฯ และมีหน้าที่ดำเนินการอื่นๆ ตามที่กำหนดในประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกัน ในการนี้ บริษัทฯ จึงต้องเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมของบริษัทฯ และพิจารณาอนุมัติให้คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริหาร หรือ กรรมการผู้จัดการมอบอำนาจ มีอำนาจในการดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวเนื่อง ตลอดจนกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ข้อกำหนด หรือรายละเอียดใดๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อธุรกรรมของบริษัทฯ เพื่อให้ธุรกรรมของบริษัทฯ ดังกล่าวสำเร็จลุล่วง ทั้งนี้ รายละเอียดของธุรกรรมของบริษัทฯ ปรากฎตามสารสนเทศ ของบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เรื่อง การขายที่ดินและหุ้นสามัญให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย) ______________________________________________________________________ รายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ 4. พิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการเกี่ยวกับการขายที่ดินและหุ้นสามัญให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันและให้เสน อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการเกี่ยวกับการขายที่ดินและหุ้นสามัญให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 4.1 การขายที่ดินของบริษัทฯ และที่ดินที่บริษัทฯ ถือกรรมสิทธิ์รวมกับนายเกรียงศักดิ์ สุวิวัฒน์ธนชัย เป็นจำนวน 1 แปลง โดยมีเนื้อที่รวม 14 ไร่ 65 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ให้แก่บริษัท สุพรรณนิมิต จำกัด ("SUP") ซึ่งเป็นบริษัทที่นางสาวกรภัทร์ สุวิวัฒน์ธนชัย ("นางสาวกรภัทร์") ซึ่งเป็นน้องสาวของนายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย ที่เป็นกรรมการและกรรมการผู้จัดการของบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.98 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ SUP ในราคาซื้อขายทั้งสิ้น 431,000,000 บาท ("ธุรกรรมการขายที่ดินให้แก่ SUP") การเข้าทำธุรกรรมการขายที่ดินให้แก่ SUP ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า "ประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์") โดยคำนวณขนาดรายการได้เท่ากับร้อยละ 1.0 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่คำนวณขนาดรายการได้สูงสุดจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ สำหรับปี 2564 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของบริษัทฯ แล้ว ("งบการเงินฯ") นอกจากนี้ ธุรกรรมการขายที่ดินให้แก่ SUP เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ประเภทรายการสินทรัพย์หรือบริการ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า "ประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกัน") เนื่องจากเป็นการเข้าทำรายการกับนิติบุคคลที่มีนางสาวกรภัทร์ ซึ่งเป็นญาติสนิทของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้มีอำนาจควบคุมของนิติบุคคลดังกล่าว โดยมีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 5.5 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ 4.2 การขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัท ยูนิค เรียลเอสเตท แอนด์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ("UR") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ UR ให้แก่นางสาวกรภัทร์ ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,609,000,000 บาท("ธุรกรรมการขายหุ้นใน UR") การเข้าทำธุรกรรมการขายหุ้นใน UR ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ โดยคำนวณขนาดรายการได้เท่ากับร้อยละ 32.2 ตามเกณฑ์กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่คำนวณขนาดรายการได้สูงสุดจากงบการเงินฯ นอกจากนี้ ธุรกรรมการขายหุ้นใน UR เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ประเภทรายการสินทรัพย์หรือบริการ ตามประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกัน เนื่องจากเป็นการเข้าทำรายการกับนางสาวกรภัทร์ ซึ่งเป็นญาติสนิทของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ โดยมีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 20.5 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ ทั้งนี้ ธุรกรรมการขายที่ดินให้แก่ SUP และธุรกรรมการขายหุ้นใน UR (รวมเรียกว่า "ธุรกรรมของบริษัทฯ") ไม่เข้าข่ายเป็นการขายหรือโอนกิจการของบริษัทฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนที่สำคัญให้แก่บุคคลอื่น ตามมาตรา 107(2)(ก) แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจากัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) เนื่องจากสินทรัพย์ที่จำหน่ายไปในธุรกรรมของบริษัทฯ ไม่ใช่สินทรัพย์ที่สำคัญต่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมของบริษัทฯ เป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการรวมสูงสุดเมื่อคำนวณตามเกณฑ์กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน เท่ากับร้อยละ 32.2 จากงบการเงินฯ โดยบริษัทฯ ไม่มีรายการย้อนหลังซึ่งเข้าข่ายต้องรวมคำนวณขนาดรายการในช่วงระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่ที่ประชุมมีมติอนุมัติธุรกรรมของบริษัทฯ ดังนั้น ธุรกรรมของบริษัทฯ จึงเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ซึ่งมีขนาดรายการสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ส่งผลให้บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยสารสนเทศสำหรับการเข้าทำธุรกรรมของบริษัทฯ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เห็นสมควรให้นำเสนอธุรกรรมของบริษัทฯ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติธุรกรรมของบริษัทฯ ดังกล่าว ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ นอกจากนี้ ธุรกรรมของบริษัทฯ มีขนาดรายการที่เกี่ยวโยงกันรวมเท่ากับ 2,040,000,000 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 26.1 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ไม่มีรายการย้อนหลังซึ่งเข้าข่ายต้องรวมคำนวณขนาดรายการในช่วงระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่ที่ประชุมมีมติอนุมัติธุรกรรมของบริษัทฯ รายการดังกล่าวจึงมีมูลค่ามากกว่าร้อยละ 3 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนการเข้าทำธุรกรรมของบริษัทฯ และมีหน้าที่ดำเนินการอื่นๆ ตามที่กำหนดในประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกัน ในการนี้ บริษัทฯ จึงต้องเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมของบริษัทฯ และพิจารณาอนุมัติให้คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริหาร หรือ กรรมการผู้จัดการมอบอำนาจ มีอำนาจในการดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวเนื่อง ตลอดจนกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ข้อกำหนด หรือรายละเอียดใดๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อธุรกรรมของบริษัทฯ เพื่อให้ธุรกรรมของบริษัทฯ ดังกล่าวสำเร็จลุล่วง ทั้งนี้ รายละเอียดของธุรกรรมของบริษัทฯ ปรากฎตามสารสนเทศ ของบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เรื่อง การขายที่ดินและหุ้นสามัญให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย) ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้