ที่ ตล. 023/2558 วันที่ 16 ตุลาคม 2558 เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมฯ เกี่ยวกับการทำสัญญาจัดการทรัพย์สินและแบ่งผลประโยชน์ (เพิ่มเติม) เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯได้จัดประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 11 /2558 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 ที่สำนักงานใหญ่อาคารเอคิวสแควร์ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 1 เวลา 17:00 น และมีรายการสารสนเทศที่คณะกรรมการบริษัทฯพิจารณาและจะต้องแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ แก่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังต่อไปนี้ 1. พิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการทำสัญญาจัดการทรัพย์สินและแบ่งผลประโยชน์ ระหว่างบริษัทฯ กับ บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี่ อินดัสเทรียล จำกัด ("บริษัท โกลเด้นฯ") และบริษัท โปรเกรส พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โกลเด้นฯ โดยถือหุ้นร้อยละ 68 ตามที่ เมื่อวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2558 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองได้มีคำสั่งให้ทางบริษัทร่วมกันกับจำเลยอื่นๆคืนเงินจำนวน10,004,467,480 บาท แก่ธนาคารผู้เสียหายคือธนาคารกรุงไทย ("ธนาคาร") และบริษัทโกลเด้นฯ ต้องรับผิดจำนวน 8,368.73 ล้านบาท ขณะที่บริษัทโกลเด้นฯและบริษัทย่อยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินหลักประกันคือที่ดินจำนวน 216 โฉนด เนื้อที่รวมประมาณ 4,323-1-55.90 ไร่ ตั้งอยู่ตามแนวถนนบางนา-ตราด (ทางหลวงหมายเลข 34) ถนนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (มอเตอร์เวย์) และวัดเกาะแก้ว ("ที่ดิน") ดังนั้น หากบริษัทไม่ได้ดำเนินการใดๆ และปล่อยให้ธนาคารขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันนี้แล้ว ในกรณีที่ได้เงินน้อยกว่าภาระที่บริษัทฯต้องรับผิดชอบเท่าใด บริษัทฯก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกเรียกให้ชดใช้ในส่วนต่างนั้นจนครบจำนวนที่บริษัทฯต้องชำระแก่ธนาคาร เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่า แหล่งที่มาที่สามารถชำระหนี้ได้ที่ไม่เกิดความเสียหายใด ๆ กับบริษัทก็คือที่ดินที่เป็นหลักประกันของบริษัทโกลเด้นฯ และที่ดินหลักประกันมีราคาประเมินสูงกว่าภาระหนี้ของบริษัทฯ ดังนั้นหากมีการจัดการที่ดี ย่อมมีโอกาสที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินและสามารถขายที่ดินได้เงินมากเพียงพอที่จะชำระหนี้ของบริษั ทฯ ได้ และอาจจะมีเหลือกำไรให้กับบริษัทและบริษัทโกล้เด้นฯ ได้อีกด้วย ดังนั้น บริษัทฯ ซึ่งมีความชำนาญในการจัดการอสังหาริมทรัพย์มากกว่า และเป็นผู้ที่จะได้รับความเสียหายในการนี้โดยตรง เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและยังมีโอกาสได้รับกำไรจากการบริหารจัดการอีกด้วย ทางบริษัทฯ จึงจำเป็นต้องสอดเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการในการขายทรัพย์สินหลักประกันนี้โดยหากขายทรัพย์สินได้ กำไร ก็จะมีการแบ่งกำไรหรือผลประโยชน์กันกับบริษัท โกล้เด้นฯ โดยมีข้อตกลงว่า หากหลักประกันสามารถชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ทางบริษัท โกลเด้นฯก็จะไม่มาไล่เบี้ยกับบริษัทสำหรับหนี้ส่วนต่างระหว่างที่บริษัทโกลเด้นฯต้องรับผิดชอบคือ 8,368.73 ล้านบาทกับหนี้ส่วนที่บริษัทฯต้องรับผิดชอบคือ 10,004.46 ล้านบาท ทำให้บริษัทไม่มีความเสียหายที่เกิดจากคำพิพากษาและจะไม่กระทบต่อทรัพย์สินอื่นของบริษัทแต่อย่างใด โดยสรุป เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น บริษัทฯ กับบริษัทโกลเด้นฯและบริษัทโปรเกรสฯในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโกลเด้นฯ จึงตกลงเข้าทำสัญญาจัดการทรัพย์สินและแบ่งผลประโยชน์ โดยมี สาระสำคัญของสัญญามีดังต่อไปนี้ 1. วันเดือนปีที่เกิดรายการ: วันที่ 16 ตุลาคม 2558 สัญญาสิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2561 2. คู่สัญญาที่เกี่ยวข้องและความสัมพันธ์กับบริษัทจดทะเบียน 2.1. บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี่ อินดัสเทรียล จำกัด ("บริษัท โกลเด้นฯ") 2.2. บริษัท โปรเกรส พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเมนท์ จำกัด ("บริษัทโปรเกรส") ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โกลเด้นฯ คู่สัญญาทั้งสองบริษัทไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับบริษัทฯ 3. รายละเอียดและเงื่อนไขในสัญญา 3.1. บริษัทฯเป็นผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการประนอมหนี้ รวมถึงการบริหาร จัดการในการขายที่ดิน แต่เพียงผู้เดียว แบบไม่ยกเลิกเพิกถอนในระยะเวลา 3 ปีนับจากวันลงนามในสัญญา 3.2. บริษัทฯเป็นผู้สำรองจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็นเพื่อให้สามารถขายที่ดินได้ เช่น ค่าถอนการอายัดที่ดิน การชำระหนี้สรรพากรแทนบริษัทโกลเด้นฯ เพื่อมิให้ถูกอายัดที่ดิน การชำระหนี้บางส่วนของบริษัทย่อยของบริษัทโกลเด้นฯ ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาที่ดิน เป็นต้น โดยไม่คิดค่าตอบแทน เว้นแต่ กรณีที่ผู้ดำเนินการ(บมจ.เอคิว) ต้องกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้ในการนี้ บริษัทโกลเด้นฯ ตกลงที่จะคืนเท่ากับต้นทุนทางการเงินที่ผู้ดำเนินการต้องเสียไป ในกรณีที่หลักทรัพย์ค้ำประกันขายได้น้อยกว่ามูลหนี้ทั้งหมด จะต้องชำระให้ธนาคารกรุงไทยในส่วนที่เป็นส่วนของบริษัทโกลเด้นฯ จำนวน 8,368.73 ล้านบาทและชำระในส่วนที่บริษัทฯ ได้สำรองจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยที่ดินดังกล่าวได้มีการประเมินเมื่อวันที่8 ตุลาคม 2558 มีราคาประเมิน13,500ล้านบาท กรณีบังคับขาย จะมีDiscount Rate 30% ราคาที่ดินเท่ากับ 9,450ล้านบาท เมื่อชำระหนี้ในส่วนของบริษัทโกลเด้นฯ แล้วยังคงเหลือคืนค่าใช้จ่ายที่บริษัทฯ ได้สำรองจ่ายไป 3.3. กำไรที่ได้จากการขายทรัพย์สินหลังหักค่าใช้จ่ายและชำระหนี้แก่ธนาคารแล้วจะแบ่งกันในสัดส่วนบริษัทโก ลเด้นฯ 70% และบริษัทฯ 30% 3.4. เมื่อบริษัทฯ และบริษัทโกลเด้นฯหลุดพ้นจากความรับผิดกับธนาคารแล้ว ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไม่เรียกร้องหรือใช้สิทธิไล่เบี้ยต่อกันอีกต่อไป 3.5. เพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาและความคล่องตัวในการดำเนินการ บริษัทโปรเกรสฯในฐานะผู้ถือหุ้นตกลงที่จะโอนหุ้นและเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทโกลเด้นฯให้แก่บริษัทฯ แต่เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง บริษัทฯจะต้องโอนหุ้นและคืนอำนาจกรรมการให้แก่บริษัทโปรเกรสฯตามเดิม 3.6. บริษัทฯต้องจัดหาสินเชื่อให้แก่กรรมการคนหนึ่งของบริษัทโกลเด้นฯวงเงิน 30 ล้านบาท โดยมีที่ดินเป็นหลักประกันซึ่งมีราคาประเมินไม่น้อยกว่าวงเงินกู้ที่ได้รับ บริษัทย่อยของบริษัทเอคิว เป็นผู้ให้กู้ 4. ประโยชน์ที่บริษัทฯได้รับ 4.1. เมื่อบริษัทเป็นผู้จัดการที่ดินหลักประกันแล้ว ย่อมสะดวกในการเจรจาเงื่อนไขการชำระหนี้แก่ธนาคาร 4.2. เป็นแนวทางในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินอื่นๆของบริษัทฯกรณีที่ที่ดินหลักประก ันฯถูกขายโดยไม่ได้รับการจัดการที่ดี ทำให้ได้รับเงินจากการขายต่ำกว่าภาระหนี้ 4.3. มีโอกาสได้รับส่วนแบ่งผลกำไร 5. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการเข้าทำรายการ คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นสมควรให้เข้าทำรายการนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทฯจากผลของคำพิพากษาและบริษัทฯยังสามารถได้รับส่วนแบ่งผลก ำไรจากการเข้ามาจัดการทรัพย์สินในครั้งนี้ จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดเผยแพร่ต่อไป ขอแสดงความนับถือ (นายสุทธิศักดิ์ วจีปิยนันทานนท์) (นายภพ เพชรสุวรณ) กรรมการ กรรมการ ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้