เหลือเวลาอีกเพียง 3 เดือนเท่านั้นสำหรับปีนี้ แต่ก็ยังพอมีเวลาในการตัดสินใจซื้อ LTF หลายคนรอสัปดาห์สุดท้ายของปีค่อยเดินเข้าแถวรอซื้อตามสาขาแบงก์ ทั้งๆ ที่รู้กันดีว่าตอนปลายปีดัชนีหุ้นมักปรับขึ้น หมายความว่าจะซื้อได้ของแพง บางคนพอถึงวันนั้นก็ลืมเสียสนิท
“ซื้อ LTF หรือยัง” ประโยคคำถามที่ได้ยินบ่อยขึ้นในช่วงใกล้สิ้นปี ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีมากที่รอซื้อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม อีกทั้ง มีอีกหลายคนที่ต้องการซื้อ LTF ในวันที่หุ้นปรับลดลง เพราะจะได้ราคาถูก แต่ในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยาก ไม่มีใครรู้ว่าดัชนีหุ้นจะปรับลดลงวันไหนบ้าง ซึ่งถ้ารู้จะทำให้วันศุกร์ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันที่ LTF ถูกซื้อมากที่สุด เพราะเป็นวันที่ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยปิดที่ระดับ 1,595.58 จุด
คำถามตามมาว่า “ซื้อ LTF ตอนไหนดีถึงจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีไปพร้อมๆ กัน” โดยจากข้อมูลมอร์นิ่งสตาร์ (ประเทศไทย) สถาบันจัดอันดับกองทุนรวม ทำสถิติเพื่อหาคำตอบว่าเดือนไหนของปีที่ควรซื้อ LTF เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด
อันดับ |
เดือน |
ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนแบบ 5 ปีปฏิทิน (% ต่อปี) |
เดือน |
ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนแบบ 7 ปีปฏิทิน (% ต่อปี) |
1 |
ตุลาคม |
12.01 |
เมษายน |
13.87 |
2 |
เมษายน |
11.64 |
พฤษภาคม |
13.72 |
3 |
พฤษภาคม |
11.47 |
ธันวาคม |
13.46 |
4 |
มิถุนายน |
11.36 |
มีนาคม |
13.42 |
5 |
กรกฎาคม |
11.19 |
พฤศจิกายน |
13.28 |
6 |
ธันวาคม |
11.15 |
กุมภาพันธ์ |
13.22 |
7 |
มีนาคม |
11.14 |
มิถุนายน |
13.13 |
8 |
พฤศจิกายน |
11.13 |
มกราคม |
12.76 |
9 |
สิงหาคม |
11.10 |
กรกฎาคม |
12.59 |
10 |
กุมภาพันธ์ |
11.09 |
สิงหาคม |
12.50 |
11 |
กันยายน |
10.83 |
ตุลาคม |
12.11 |
12 |
มกราคม |
10.76 |
กันยายน |
11.89 |
ที่มา: Morningstar Direct (ข้อมูล ณ 31 สิงหาคม 2559)
หากพิจารณาตาราง พบว่าผลตอบแทนอันดับ 1 และอันดับ 12 มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย หมายความว่านักลงทุนสามารถซื้อ LTF เดือนไหนก็ได้ ที่สำคัญหากซื้อแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Average) ทุกๆ เดือนเท่ากัน ก็น่าจะดีกว่านำเงินก้อนทั้งหมดไปซื้อครั้งเดียวช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี
เลือก LTF อย่างไรให้คุ้ม
ธนาคารเกียรตินาคิน จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับเคล็ดลับการเลือก LTF ให้คุ้มค่า
- คุ้ม - ไม่คุ้ม ดูอย่างไร
ก่อนตัดสินใจซื้อ LTF ควรพิจารณาก่อนว่า ณ ฐานภาษีที่เสียอยู่ปัจจุบัน ควรซื้อ LTF เพื่อลดหย่อนภาษีหรือไม่ เนื่องจากการซื้อ LTF ถือเป็นการลงทุนเป็นเวลาขั้นต่ำ 7 ปี (ปฏิทิน) แม้หลายคนจะพิจารณาที่ 5 ปี ในทางปฏิบัติก็ตาม โดยฐานภาษีที่แนะนำว่าสมควรซื้อ LTF เพื่อลดหย่อนภาษี คือ ฐานภาษีที่ 15% ขึ้นไป
- เข้าใจก่อนเลือกซื้อ
ก่อนเลือกซื้อ ควรต้องทำความเข้าใจถึงลักษณะของ LTF ก่อน เพราะเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 70% ขึ้นไป อีกทั้ง มีทั้งลักษณะที่ปันผลและไม่ปันผล ซึ่งต้องเลือกในลักษณะที่เหมาะสมกับความต้องการและเข้าใจถึงความเสี่ยงด้านการลงทุนที่จะเกิดขึ้นด้วย
3. การเปรียบเทียบกอง LTF
การพิจารณาเปรียบเทียบ LTF พิจารณาง่ายๆ จาก
• ผลประกอบการย้อนหลังของกองทุน (Past Performance) 3 - 5 ปี
• การเทียบกับ Benchmark หรือโดยปกติ ก็คือ การเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุน (Total Return) ควรสูงกว่าดัชนีหุ้นไทย
• Morning Star Rating เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยในการเปรียบเทียบ ควรพิจารณา LTF ที่ได้ Morning Star 4 ดาวขึ้นไป
4. ซื้ออย่างไร
โดยปกติการซื้อ LTF ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ ซื้อแบบ Dollar Cost Average หรือแบบการทยอยซื้อเก็บตั้งแต่ต้นปี เพื่อเฉลี่ยต้นทุน ที่สำคัญเป็นการฝึกวินัยในการออมด้วย
ฐิติเมธ โภคชัย
ผู้บริหารงาน ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ความคิดเห็นของท่านเกี่ยวกับเว็บไซต์ “ห้องเรียนนักลงทุน”
ท่านได้รับความรู้จากเนื้อหาของ เว็บไซต์ห้องเรียนนักลงทุน เพิ่มขึ้น มากน้อยเพียงใด
ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน มากน้อยเพียงใด
ท่านได้รับความรู้จากเนื้อหาของ เว็บไซต์ห้องเรียนนักลงทุน เพิ่มขึ้น มากน้อยเพียงใด
ท่านมีความพึงพอใจต่อการใช้งาน มากน้อยเพียงใด